v2312_E_i

ข้อกำหนดทั่วไปในการให้บริการ

- สารบัญ -

1. คำนิยาม

2. ภาระผูกพันของที่พัก

2.1 ข้อมูลที่พัก

2.2 ความเท่าเทียม

2.3 คอมมิชชั่น

2.4 การชำระเงินแก่ Booking.com

2.5 การจอง การจองโดยลูกค้า การร้องเรียน และนโยบายเราเทียบราคาให้เท่าเทียม

2.6 การจองเกินจำนวนจัดสรรและการยกเลิกการจอง

2.7 บัตรเครดิต

2.8 การใช้งานข้อมูลและบริการออนไลน์ของ Booking.com

2.9 บริการรับส่งข้อมูลทางข้อความ

2.10 เหตุสุดวิสัย

3. สิทธิ/การอนุญาตให้ใช้งานและข้อมูล

4. การจัดอันดับ รีวิวจากผู้เข้าพัก การทำการตลาด และการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน

4.1 การจัดอันดับ

4.2 รีวิวจากผู้เข้าพัก

4.3 การทำการตลาด (ออนไลน์) และการโฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก

4.4 การอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน

5. การรับรองและการรับประกัน

6. การชดใช้ค่าเสียหายและความรับผิด

6.1 การชดใช้ค่าเสียหายร่วมกัน

6.2 การชดใช้ค่าเสียหายโดยที่พัก

6.3 ข้อจำกัดของความรับผิด

7. ระยะเวลา การยุติ และการระงับ

8. สมุดบัญชีและบันทึก

9. การรักษาความลับและการแบ่งปันข้อมูล

10. การระงับข้อพิพาท

10.1 กฎหมายที่บังคับใช้และศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดี

10.2 ระบบจัดการการร้องเรียน

10.3 การไกล่เกลี่ย

11. การปฏิบัติตาม

12. เบ็ดเตล็ด

ภาคผนวก

1 - แนวทางด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

2 - ความปลอดภัยและการละเมิดข้อมูล

3 - ข้อกำหนดเรื่องการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน

A: สำหรับธุรกรรมทั้งหมดยกเว้นธุรกรรมที่ 3B หรือ 3C มีผล

B: สำหรับที่พักที่ลงนามในเอกสารการดำเนินการด้านการชำระเงินซึ่งเชื่อมโยงกับผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินผ่านแพลตฟอร์ม

C: สำหรับการทำธุรกรรมภายในสหรัฐอเมริกายกเว้นธุรกรรมที่ 3B มีผล

4 - การจัดอันดับ

5 - ข้อความของประเทศที่มีข้อจำกัดต่ำด้านความเท่าเทียมในการขาย

ข้อกำหนดทั่วไปในการให้บริการ

ข้อกำหนดทั่วไปในการให้บริการเหล่านี้รวมถึงภาคผนวก (“ข้อกำหนด”) ซึ่งเสริมด้วยนโยบายของ Booking.com ตามที่ประกาศใน Partner Hub (“นโยบาย”) นั้นเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่พัก (เรียกรวมกับข้อกำหนดและนโยบายว่า “ข้อตกลง”) และทำขึ้นระหว่างที่พักและ Booking.com (เรียกแยกกันว่า “ฝ่าย” และรวมกันว่า “คู่สัญญา”)

1. คำนิยาม

1.1 นอกเหนือจากคำนิยามที่ระบุไว้ในส่วนอื่นของข้อตกลงฉบับนี้แล้ว ข้อตกลงฉบับนี้จะใช้คำนิยามต่อไปนี้ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงสิ้นสุด เว้นแต่จะมีเจตนาให้ต่างออกไป:

“ที่พัก” หมายถึง องคภาวะตามกฎหมาย (นิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดา) ซึ่งเป็นผู้ลงนามในข้อตกลงฉบับนี้ และที่พัก (ซึ่งหมายถึง ตัวที่พัก) ในกรณีอื่น ซึ่งทำสัญญากับองคภาวะตามกฎหมาย และเป็นที่พักซึ่งข้อกำหนดเหล่านี้มีผลใช้บังคับ

“ข้อมูลที่พัก” หมายถึงข้อมูลที่ระบุไว้และเกี่ยวข้องกับที่พักเพื่อให้รวมอยู่บนแพลตฟอร์ม รวมถึงรูปภาพ ภาพถ่าย และคำอธิบาย สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการของที่พัก ห้องว่างที่มีให้จอง รายละเอียดด้านราคา (รวมถึงภาษีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เว้นแต่กฎหมายบังคับที่เกี่ยวข้องจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น และเงินที่เรียกชำระเพิ่มเติม) จำนวนห้องว่างที่เปิดให้จอง นโยบายการยกเลิกการจองและการไม่เข้าเช็คอิน นโยบายและข้อกำหนดด้านการจองอื่น ๆ รวมถึงข้อมูล (เพิ่มเติม) ใดก็ตามที่ Booking.com จำเป็นต้องแสดงบนแพลตฟอร์มเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

”บริษัทแอฟฟิลิเอต” หมายถึง องค์กรที่ควบคุม ถูกควบคุมโดย หรืออยู่ภายใต้การควบคุมร่วมกับอีกฝ่าย ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ในระหว่างระยะเวลาของข้อตกลง ซึ่งรวมถึงกรรมการ เจ้าหน้าที่ และพนักงาน

“Connectivity Provider” หมายถึง ผู้ให้บริการด้านซอฟต์แวร์มืออาชีพที่ให้บริการ Connectivity กับที่พัก และได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้าน Connectivity ที่ถูกต้องและต่อเนื่องกับ Booking.com

“บริการ Connectivity” หมายถึง บริการที่ Connectivity Provider มีให้แก่ที่พัก ซึ่งช่วยในการสื่อสารข้อมูลที่พักและข้อมูลลูกค้าระหว่างระบบคอมพิวเตอร์ของที่พักและแพลตฟอร์ม Booking.com ผ่านระบบของ Connectivity Provider

“ข้อมูลลูกค้า” หมายถึง วันที่เช็คอินและเช็คเอาท์ จำนวนคืนที่จอง ประเภทห้อง (รวมถึงความประสงค์ในการสูบบุหรี่ (หากมี)) ราคาห้องพัก ชื่อลูกค้า ที่อยู่ และข้อมูลบัตรเครดิตและคำขอเฉพาะอื่น ๆ จากลูกค้า (หากมี)

“ผู้ควบคุมข้อมูล” หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล หรือสิ่งในลักษณะที่คล้ายกัน (เช่น “ธุรกิจ”) ภายใต้กฎหมายเทคโนโลยีและข้อมูล ซึ่งเป็นผู้กำหนดวัตถุประสงค์และวิธีการในการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าแต่เพียงผู้เดียวหรือร่วมกับผู้อื่น

“การหักบัญชีอัตโนมัติ” หมายถึง คำสั่งที่ที่พักให้ไว้กับธนาคารของที่พัก เพื่ออนุญาตให้ Booking.com สามารถเก็บยอดที่เกี่ยวข้องภายใต้ข้อตกลงนี้โดยตรงจากบัญชีธนาคารของที่พัก

“เขตเศรษฐกิจยุโรป” หมายถึง ประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรป รวมถึงนอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ (ตามที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมโดยองค์กรปกครองที่เหมาะสมเป็นครั้งคราว)

“เอกซ์ทราเน็ต” หมายถึง ระบบออนไลน์ของ Booking.com ซึ่งที่พักสามารถเข้าถึงได้ (หลังจากใส่ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน) เพื่อดำเนินการต่าง ๆ เช่น อัปโหลด เปลี่ยนแปลง ตรวจสอบยืนยัน อัปเดต และ/หรือแก้ไขข้อมูลที่พักและการจอง

“การอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน” หมายถึง วิธีชำระเงินที่ Booking.com อาจให้บริการเป็นครั้งคราวบนแพลตฟอร์มของ Booking.com ในเขตอำนาจศาลที่เจาะจงสำหรับการชำระเงิน (ล่วงหน้า/บางส่วน) ของราคาห้องพักจากลูกค้าให้แก่ที่พัก นอกจากนี้ยังรวมถึงสำหรับการชำระคอมมิชชั่นจากที่พักให้แก่ Booking.com (ตามแต่กรณี) โดยขึ้นอยู่กับว่าสามารถชำระเงินและดำเนินการสำหรับและในนามของที่พักด้วยวิธีโอนเงินผ่านธนาคาร การชำระเงินด้วยบัตรเครดิต หรือการชำระเงินออนไลน์ในรูปแบบอื่นใด (ตามที่มีให้ใช้) เป็นต้น

“ข้อกำหนดด้านอาชญากรรมทางการเงิน” หมายถึง กฎหมายว่าด้วยการกระทำทุจริตในต่างประเทศ (Foreign Corrupt Practices Act) กฎหมายว่าด้วยการติดสินบนของสหราชอาณาจักรปี 2010 (UK Bribery Act 2010) กฎหมายว่าด้วยอาชญากรรมทางการเงินของสหราชอาณาจักรปี 2017 (UK Criminal Finances Act 2017) ตลอดจนกฎหมาย บทกฎหมาย ข้อบังคับ สนธิสัญญา หรือประมวลกฎหมายอื่นที่บังคับใช้ซึ่งเกี่ยวข้องกับการต่อต้านการติดสินบน การต่อต้านการทุจริต การต่อต้านการฟอกเงิน การต่อต้านการหนีภาษี/การอำนวยความสะดวกในการหนีภาษี การต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการค้า และการต่อต้านอาชญากรรมทางการเงินที่บังคับใช้ในประเทศที่คู่สัญญาแต่ละฝ่ายดำเนินงานหรือมีสถานประกอบธุรกิจ

“เหตุสุดวิสัย” หมายถึงเหตุการณ์ใดก็ตามต่อไปนี้ที่มีผลกระทบต่อลูกค้าหลายรายและที่พักหลายแห่ง: ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ภูเขาไฟระเบิด ภัยพิบัติ (ทางธรรมชาติ) อัคคีภัย (การทำ) สงคราม การสู้รบหรือภาวะฉุกเฉินในท้องถิ่นหรือในประเทศ การรุกราน การปฏิบัติตามคำสั่งหรือคำร้องขอจากหน่วยงานระดับชาติ หน่วยงานระดับจังหวัด การท่าเรือ หรือหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐ ข้อบังคับหรือการแทรกแซงของรัฐบาล การปฏิบัติการทางทหาร สงครามกลางเมืองหรือการก่อการร้าย การระเบิด (ทางชีวภาพ เคมี หรือนิวเคลียร์) การก่อกบฏ การจลาจล การลุกขึ้นต่อต้าน การนัดหยุดงานประท้วง การก่อความไม่สงบ (หรือภัยอันตรายอย่างร้ายแรงหรือเป็นรูปธรรม หรือความหวาดวิตกอย่างสมเหตุสมผลเกี่ยวกับเหตุการณ์ใดก็ตามข้างต้น) การจำกัดหรืองดบริการขนส่ง การปิดสนามบิน หรือเหตุการณ์ สถานการณ์ หรือภาวะฉุกเฉินอื่นใดที่เป็นกรณีพิเศษและเป็นมหันตภัย ซึ่งเป็นเหตุให้ผู้เข้าพักไม่สามารถเดินทางไปยังที่พักหรือเข้าพักในที่พักได้ หรือเป็นเหตุให้การเดินทางไปยังที่พักหรือเข้าพักในที่พักของผู้เข้าพักกลายเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่ปลอดภัยอย่างมาก

“ลูกค้า” หมายถึงผู้เข้าชมแพลตฟอร์ม หรือลูกค้าหรือผู้เข้าพักของที่พักซึ่งทำการจองผ่านแพลตฟอร์ม

“ทรัพย์สินทางปัญญา” หมายถึง (หรือหากเกี่ยวข้องก็หมายถึงการขอ) สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ สิ่งประดิษฐ์ สิทธิในฐานข้อมูล สิทธิในการออกแบบ การออกแบบที่ได้รับการจดทะเบียนแล้ว เครื่องหมายการค้า ชื่อทางการค้าหรือธุรกิจ ตราสินค้า ตราสัญลักษณ์ เครื่องหมายบริการ องค์ความรู้ ผลิตภัณฑ์อรรถประโยชน์ การออกแบบที่ยังไม่ได้จดทะเบียน หรือชื่อโดเมน (ไม่ว่าจะใช้นามสกุลโดเมนใดก็ตาม เช่น .com, .nl, .fr, .eu ฯลฯ) หรือสิทธิหรือภาระผูกพันอื่นใดที่ใกล้เคียงกัน ทั้งที่จดทะเบียนหรือไม่ก็ตาม หรือสิทธิในทรัพย์สินทางอุตสาหกรรมหรือทรัพย์สินทางปัญญาอื่นที่อยู่ในอาณาเขตหรือเขตอำนาจศาลใด ๆ ในโลก

“การทำการตลาดออนไลน์” หมายถึง การทำตลาดต่อสาธารณชนออนไลน์ โดยใช้วิธีการต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงแอปพลิเคชั่นบนอุปกรณ์พกพา คำนิยามนี้ไม่ได้รวมถึงการสื่อสารผ่านอีเมล SMS และระบบส่งข้อความทันทีซึ่งไม่ได้มุ่งเป้าไปยังสาธารณชน

“บริการรับส่งข้อมูลทางข้อความ” หมายถึง บริการที่ Booking.com อาจมีให้เป็นครั้งคราวเนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของบริการที่มีให้กับลูกค้าและที่พัก เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการสื่อสารระหว่างลูกค้า ที่พัก และ Booking.com

“ประเทศที่มีข้อจำกัดสูงด้านความเท่าเทียมในการขาย” หมายถึง อาร์เมเนีย ออสเตรเลีย บราซิล จีน ประเทศทั้งหมดในเขตเศรษฐกิจยุโรป (ยกเว้นประเทศที่ไม่สามารถขอความเท่าเทียมในการขาย) จอร์เจีย ฮ่องกง อิสราเอล ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ตุรกี สหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ และ/หรือเขตอำนาจศาลอื่น ๆ ตามที่ Booking.com ระบุไว้เป็นครั้งคราว

“ประเทศที่ไม่สามารถขอความเท่าเทียมในการขาย” หมายถึง ออสเตรีย เบลเยียม ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี รัสเซีย สวิตเซอร์แลนด์ และ/หรือเขตอำนาจศาลอื่น ๆ ตามที่ Booking.com ระบุไว้เป็นครั้งคราว

“Partner Hub” หมายถึงศูนย์ช่วยเหลือคู่ค้าของ Booking.com (partner.booking.com) ซึ่ง Booking.com มอบความช่วยเหลือและข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับที่พัก

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลธรรมดาที่ได้รับการระบุตัวตนหรือสามารถระบุตัวตนได้ (หมายถึงบุคคลที่สามารถระบุตัวตนได้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม โดยอ้างอิงจากตัวระบุ เช่น ชื่อ ข้อมูลบัตรเครดิต หมายเลขประจำตัว ข้อมูลตำแหน่ง ตัวระบุออนไลน์ หรืออ้างอิงจากปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งหรือมากกว่าที่จำเพาะต่ออัตลักษณ์ทางร่างกาย สรีรวิทยา พันธุกรรม จิตใจ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม หรือสังคมของบุคคลธรรมดานั้น)

“แพลตฟอร์ม” หมายถึง เว็บไซต์ แอปพลิเคชั่น เครื่องมือ และ/หรือแพลตฟอร์มของ Booking.com และ/หรือบริษัทแอฟฟิลิเอตและคู่ค้าธุรกิจ ซึ่งเป็นพื้นที่หรือช่องทางในการให้บริการ

“เผยแพร่ทางออนไลน์” หมายถึง ทำให้ปรากฏต่อสาธารณชนทางออนไลน์โดยใช้วิธีการต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงบนแอปพลิเคชั่นสำหรับอุปกรณ์พกพา ในกรณีของราคา การเผยแพร่นั้นรวมถึงการแสดงราคาหรือข้อมูลที่เพียงพอเพื่อให้ผู้บริโภคคำนวณราคาได้ (เช่น ลดราคา xx% ส่วนลด $yy)

“ราคาห้องพัก” หมายถึง ราคารวมของการจอง ซึ่งรวมถึงภาษี ค่าบริการพิเศษ และส่วนเสริมที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่มีการจองหรือรวมไว้ก่อนเช็คอิน (เช่น อาหารเช้า) ตามที่ที่พักกำหนดไว้หรืออัปโหลดไปยัง Booking.com ผ่านทางเอกซ์ทราเน็ต ผ่านทาง Connectivity Provider (ตามที่เหมาะสมและสามารถทำได้) หรือวิธีอื่นที่ Booking.com อาจระบุไว้เป็นครั้งคราว

“บริการ” หมายถึงระบบการจองที่พักออนไลน์ของ Booking.com ซึ่งที่พักสามารถเปิดให้จองห้องพักของตนและลูกค้าสามารถใช้ทำการจอง ณ ที่พักดังกล่าว ตลอดจนการส่งเสริมการขายของที่พัก การอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน และบริการรับส่งข้อมูลทางข้อความ

“ระบบ” หมายถึง ระบบ (XML) ซึ่งที่พักสามารถเข้าถึงเพื่อใช้บริการและจัดการบริหารที่พักบนแพลตฟอร์ม (รวมถึงราคา นโยบายการจอง ฯลฯ)

“ภาษี” หมายถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาษีการขาย และภาษี ค่าธรรมเนียม เงินที่เรียกเก็บ (เพิ่มเติม) และ/หรือการจัดเก็บภาษีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับชาติ รัฐบาล จังหวัด รัฐ เทศบาล หรือท้องถิ่น

“กฎหมายเทคโนโลยีและข้อมูล” หมายถึง กฎหมายใด ๆ ที่บังคับใช้ซึ่งเกี่ยวข้องกับบทบัญญัติของบริการดิจิตอล ตลอดจนการคุ้มครองและการใช้ข้อมูล (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงกฎเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล การดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคล การคุ้มครองความเป็นส่วนตัว การใช้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ การดำเนินงานของตลาดและแพลตฟอร์มดิจิตอล และการใช้ข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด) ซึ่งมีผลบังคับใช้กับคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่าย และกฎหมายหรือข้อบังคับใด ๆ ที่ให้สัตยาบัน นำไปปฏิบัติ ใช้ เสริม แก้ไข หรือแทนที่กฎหมายหรือข้อบังคับดังกล่าว

“ไม่เผยแพร่” หมายถึง ไม่ได้เผยแพร่ทางออนไลน์

“เราเทียบราคาให้เท่าเทียม” หมายถึง การรับประกันที่ออกโดย Booking.com (ภายใต้ชื่อนี้หรือชื่ออื่น) โดยระบุว่า Booking.com เสนอราคาที่ดีที่สุดสำหรับห้องพัก และไม่สามารถหาราคาต่ำกว่านี้ได้บนช่องทางออนไลน์สำหรับห้องพักในระดับเดียวกันที่มีวันที่เช็คอินและวันที่เช็คเอาท์เหมือนกัน และมีเงื่อนไขการจองเดียวกัน

“ประเทศที่มีข้อจำกัดต่ำด้านความเท่าเทียมในการขาย” หมายถึง ประเทศทั้งหมด ยกเว้นประเทศที่มีข้อจำกัดสูงด้านความเท่าเทียมในการขาย และยกเว้นประเทศที่ไม่สามารถขอความเท่าเทียมในการขาย

1.2 คำที่เป็นเอกพจน์จะครอบคลุมถึงคำที่เป็นพหูพจน์ และคำที่เป็นพหูพจน์จะครอบคลุมถึงคำที่เป็นเอกพจน์ เว้นแต่บริบทจะกำหนดเป็นอย่างอื่น

2. ภาระผูกพันของที่พัก

2.1 ข้อมูลที่พัก

2.1.1 ข้อมูลที่พักจะต้องมอบให้โดยเป็นตามนโยบาย และจะต้องเป็นไปตามรูปแบบและมาตรฐานที่ Booking.com กำหนด ข้อมูลที่พักจะต้องไม่มีข้อมูลอ้างอิงหรือลิงก์ไปยังที่พักหรือบุคคลที่สาม รวมถึงโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ แอปพลิเคชั่น หรือแพลตฟอร์ม Booking.com ขอสงวนสิทธิในการแก้ไขหรือไม่ใส่ข้อมูลใด ๆ ที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ หรือฝ่าฝืนข้อตกลงฉบับนี้

2.1.2 ที่พักรับรองและสัญญาว่าข้อมูลที่พักจะเป็นจริง ถูกต้อง และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดแต่อย่างใดอยู่เสมอ ที่พักจะเป็นผู้รับผิดชอบในการแก้ไข ทำให้ข้อมูลที่พักครบถ้วน และทำให้เป็นข้อมูลล่าสุด ซึ่งรวมถึงจำนวนห้องว่างที่เปิดให้จองเพิ่มเติมสำหรับบางช่วงเวลาหรือในเหตุการณ์และสถานการณ์ไม่ปกติใด ๆ (เช่น การปรับปรุงหรือการก่อสร้าง ณ หรือใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวก) ที่พักจะต้องอัปเดตข้อมูลที่พักทุกวัน (หรือบ่อยตามความจำเป็น) โดยตรงทางออนไลน์ผ่านเอกซ์ทราเน็ต ผ่าน Connectivity Provider (ตามที่เหมาะสมและสามารถทำได้) หรือช่องทางอื่นตามที่ Booking.com ระบุไว้เป็นครั้งคราว Booking.com จะดำเนินการเปลี่ยนแปลง อัปเดต และ/หรือแก้ไขภาพถ่ายและคำอธิบายโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

2.1.3 ข้อมูลที่ที่พักให้ไว้เพื่อใช้บนแพลตฟอร์มจะยังคงเป็นทรัพย์สินของที่พักแต่เพียงผู้เดียว Booking.com อาจแก้ไขหรือปรับเปลี่ยนข้อมูลที่ที่พักให้ไว้ และอาจแปลเป็นภาษาอื่นในภายหลัง โดยคำแปลจะเป็นทรัพย์สินของ Booking.com แต่เพียงผู้เดียว ทั้งนี้ เนื้อหาที่มีการแก้ไขและแปลจะมีไว้ให้ Booking.com ใช้งานบนแพลตฟอร์มเท่านั้น และที่พักจะต้องไม่นำไปใช้งาน (ไม่ว่าจะในทางใดหรือรูปแบบใด) ในการจัดจำหน่าย ช่องทางการขาย หรือภายใต้วัตถุประสงค์อื่น อีกทั้งไม่อนุญาตให้เปลี่ยนแปลงหรืออัปเดตข้อมูลคำอธิบายของที่พักโดยปราศจากการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าจาก Booking.com

2.1.4 ที่พักจะไม่ใช้บริการและระบบของ Booking.com ในทางที่ผิด โดยการอัปโหลดหรือใช้ราคาหรือเงื่อนไขที่เกินความจำเป็นหรือเกินกว่าที่จะยอมรับได้ หรือดำเนินการใด ๆ ที่มีเจตนาหรือส่งผลให้เป็น “การรอรับผลประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว” จากการลงทุนสำคัญที่กระทำโดย Booking.com บนแพลตฟอร์ม และ/หรือแบรนด์ Booking.com

2.2 ความเท่าเทียม

2.2.1 ที่พักจะให้ “ความเท่าเทียมด้านราคาและเงื่อนไข” แก่ Booking.com หมายถึง ราคาที่เท่ากันหรือราคาที่ดีกว่าสำหรับที่พักเดียวกัน ประเภทห้องพักเดียวกัน วันที่เดียวกัน ประเภทเตียงเดียวกัน จำนวนผู้เข้าพักที่เท่ากัน สิ่งอำนวยความสะดวกและส่วนเสริมที่เหมือนกันหรือดีกว่า (เช่น อาหารเช้าฟรี WiFi สิทธิเช็คเอาท์ก่อนเวลา/ล่วงเวลา) ตลอดจนมีข้อกำหนดและนโยบายที่เหมือนกันหรือดีกว่า เช่น การปรับเปลี่ยนการจองและนโยบายการยกเลิกซึ่งที่พักกำหนดไว้

2.2.2 ความเท่าเทียมด้านราคาและเงื่อนไขจะไม่มีผลต่อราคาและเงื่อนไขในกรณีต่อไปนี้:

(i) นำเสนอผ่านบริการการจองผ่านระบบออนไลน์ใดก็ตามที่ที่พักหรือเครือที่พักซึ่งเป็นเจ้าของที่พักนั้น ๆ (ไม่ว่าควบรวมหรือไม่) ไม่ได้ควบคุมทั้งโดยทางตรงหรือทางอ้อม

(ii) นำเสนอผ่านช่องทางออฟไลน์ที่ไม่มีการใช้อินเทอร์เน็ตร่วมด้วย (เช่น การจองด้วยตนเองที่แผนกต้อนรับของที่พัก โดยการโทรศัพท์ไปยังที่พัก หรือผ่านตัวแทนท่องเที่ยวที่มีหน้าร้าน) ตราบเท่าที่ราคาห้องพักไม่ได้เผยแพร่ทางออนไลน์ หรือทำการตลาดออนไลน์ หรือ

(iii) ไม่ได้เผยแพร่ ตราบเท่าที่ราคาห้องพักเหล่านี้ไม่ได้มีการทำการตลาดออนไลน์

2.2.3 คู่สัญญารับทราบว่าจุดประสงค์ของข้อ 2.2.1 และ 2.2.2 คือเพื่อให้มั่นใจว่าราคาและเงื่อนไขที่ปรากฏบนแพลตฟอร์มนั้นสามารถแข่งขันได้ ดังนั้นลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากค่าใช้จ่ายที่ลดลงสำหรับการค้นหา อีกทั้งมีจุดประสงค์เพื่อป้องกัน “การรอรับผลประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว” ของที่พักจากการลงทุนสำคัญที่กระทำโดย Booking.com

2.2.4 Booking.com อาจให้สิ่งจูงใจเกี่ยวกับราคาห้องพักโดยเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง ในกรณีดังกล่าว Booking.com จะชำระราคาห้องพักส่วนหนึ่งแทนลูกค้า

2.2.5 ที่พักตกลงจะเปิดห้องพักทั้งหมดและทุกประเภทให้จองจำนวนหนึ่งสำหรับแต่ละวันที่ในปฏิทิน (ขึ้นอยู่กับจำนวนห้องว่างที่มี) และมีการสนับสนุนให้ที่พักจัดสรรห้องพักทั้งหมดและทุกประเภทอย่างเป็นธรรมแก่ Booking.com (รวมถึงนโยบายและข้อกำหนดต่าง ๆ ด้านการจองที่มีผลบังคับใช้) ตลอดจนราคาที่มีในระหว่างระยะเวลาของข้อตกลงฉบับนี้ ในช่วงที่ลูกค้ามีความต้องการจองห้องพักทั้งต่ำและสูง ซึ่งรวมถึงช่วงที่มีงานแสดงสินค้า การประชุม และอีเวนท์พิเศษ

2.2.6 ข้อ 2.2.1 และ 2.2.2 จะไม่นำไปใช้กับที่พัก (ซึ่งหมายถึง ตัวที่พัก) ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศที่มีข้อจำกัดต่ำด้านความเท่าเทียมในการขาย โดยในกรณีเช่นนี้ข้อความในทั้งสองข้อนี้จะถูกลบออกและแทนที่ด้วยข้อความที่เกี่ยวข้องในภาคผนวก 5 ข้อ 2.2.1 และ 2.2.2 จะไม่นำไปใช้กับที่พัก (ซึ่งหมายถึง ตัวที่พัก) ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศที่ไม่สามารถขอความเท่าเทียมในการขาย

2.3 คอมมิชชั่น

2.3.1 สำหรับการจองแต่ละรายการที่ลูกค้าทำผ่านแพลตฟอร์มเพื่อจองห้องพักนั้น ที่พักจะต้องจ่ายคอมมิชชั่น (“คอมมิชชั่น”) ให้ Booking.com ซึ่งคำนวณตามข้อ 2.3.2 โดยที่การชำระเงินจะต้องเป็นไปตามข้อ 2.4

2.3.2 คอมมิชชั่นรวมต่อการจองจะเท่ากับผลคูณของ:

(i) จำนวนคืนที่ลูกค้าเข้าพักที่ที่พัก

(ii) ราคาห้องพักต่อห้องต่อคืน (เพื่อวัตถุประสงค์ของข้อด้านการคำนวณคอมมิชชั่นนี้ ราคาห้องพักจะรวมเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาษีสินค้าและบริการ (GST) หรือภาษีการขายอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน) และค่าบริการพิเศษและเงินที่เรียกชำระเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่รวมอยู่ นอกเหนือจาก หรือเป็นส่วนหนึ่งของราคาที่เสนอ หรือที่ลูกค้าเลือกที่จะรับหรือยอมรับผ่านแพลตฟอร์มในช่วงก่อนการเช็คอินของลูกค้า (เช่น อาหารเช้า มื้ออาหาร (อาหาร 2 มื้อหรืออาหาร 3 มื้อ) จักรยานให้เช่า ค่าธรรมเนียมในการเช็คเอาท์ล่วงเวลา/เช็คอินก่อนเวลา ค่าธรรมเนียมสำหรับผู้เข้าพักที่เพิ่มเข้ามา ค่าธรรมเนียมรีสอร์ท เตียงเสริม ตั๋วโรงละคร ค่าบริการ ฯลฯ)

(iii) จำนวนห้องพักที่ลูกค้าทำการจอง และ

(iv) ร้อยละของคอมมิชชั่นที่เกี่ยวข้องที่กำหนดไว้ในข้อตกลงฉบับนี้ (รวมภาษีและเงินอื่น ๆ ที่หน่วยงานรัฐเรียกชำระ (หากมี))

2.3.3 ที่พักตกลงว่าในกรณีที่ลูกค้าชำระราคาห้องพักให้แก่ที่พักตามข้อ 4.4 (การอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน) Booking.com จะคำนวณคอมมิชชั่นในกรณีของการไม่เข้าเช็คอินหรือการยกเลิกตามข้อกำหนดเรื่องการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน (ตามที่กำหนดไว้ในภาคผนวก 3) ในกรณีอื่น ๆ ทุกกรณี จะมีการเรียกเก็บคอมมิชชั่นในกรณีต่อไปนี้:

(i) การจองเกินจำนวนจัดสรร: ไม่ว่าจะเกิดเมื่อใดก็ตาม โดยไม่คำนึงถึงการยกเว้นราคาห้องพักที่มีการเรียกชำระ (ไม่ว่าเรียกชำระสำเร็จหรือไม่สำเร็จ) และ/หรือ

(ii) การยกเลิกที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมและ/หรือการไม่เข้าเช็คอินที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม

คอมมิชชั่นจะมีการคำนวณให้สอดคล้องกับการจองที่ได้รับการยืนยันแล้วตามที่มอบให้กับที่พัก และที่ Booking.com ได้ยืนยันกับลูกค้า

2.3.4 ที่พักจะต้องแจ้งให้ Booking.com ทราบถึงการยกเว้นการเรียกชำระค่าธรรมเนียม (ห้องพัก) หรือค่าธรรมเนียมใด ๆ ในกรณีไม่เข้าเช็คอินหรือยกเลิกการจองที่มีค่าธรรมเนียม และแจ้งถึงวิธีชำระเงินที่ไม่ถูกต้องใด ๆ สำหรับการจองที่ไม่เข้าเช็คอินหรือการจองที่ยกเลิก โดยแจ้งภายใน 48 ชั่วโมงหลังเที่ยงคืนของวันที่มีกำหนดเช็คเอาท์ หลังจากนั้น Booking.com จะแจ้งให้ลูกค้าทราบตามนั้น และที่พักต้องดำเนินการคืนเงินให้แก่ลูกค้าโดยเร็ว (หากมี)

2.3.5 ที่พักเป็นผู้รับผิดชอบในการแจ้งแก่ Booking.com เกี่ยวกับ (และการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ของ) ภาษีที่เกี่ยวข้อง (เว้นแต่กฎหมายบังคับที่เกี่ยวข้องจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น) ซึ่งที่พักจะเรียกชำระจากลูกค้าเมื่อทำการจองแบบชำระเงินล่วงหน้า หรือเมื่อทำการเช็คเอาท์สำหรับการจองแบบชำระเงินภายหลัง ทั้งนี้ ราคาที่แสดงต่อลูกค้าบนแพลตฟอร์มจะรวมภาษีแล้ว เว้นแต่จะตกลงกับ Booking.com ไว้เป็นอย่างอื่น หรือเป็นไปตามที่กฎหมายอนุญาต

2.3.6 หากกฎหมาย กฎ และบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่มีผลบังคับใช้กับที่พักกำหนดให้ต้องแสดงราคารวมภาษีต่อลูกค้า ที่พักจะปรับราคาโดยเร็วที่สุด และไม่ว่าในกรณีใด ๆ ภายใน 5 วันทำการนับตั้งแต่ช่วงแรกที่มีการเริ่มใช้สิ่งต่อไปนี้:

(i) การแก้ไขหรือการมีผลบังคับใช้ของกฎหมาย กฎเกณฑ์ กฎ หรือบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับที่พักดังกล่าว และ

(ii) การแจ้งเตือนโดย Booking.com

2.3.7 เอกซ์ทราเน็ตแสดงรายละเอียดของการจองทั้งหมดซึ่งทำการจองที่พักเข้ามาผ่านแพลตฟอร์ม ตลอดจนแสดงคอมมิชชั่นที่เกี่ยวข้อง หลังจากสิ้นเดือน Booking.com จะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อจัดทำเอกสารสรุปการจองออนไลน์ (“เอกสารสรุปการจองออนไลน์”) ไว้บนเอกซ์ทราเน็ตให้ที่พัก โดยเอกสารนี้จะแสดงการจองจากลูกค้าทั้งหมดซึ่งมีวันที่เช็คเอาท์อยู่ในเดือนก่อนหน้า

2.4 การชำระเงินแก่ Booking.com

2.4.1 คอมมิชชั่นจะออกเป็นใบแจ้งหนี้และต้องชำระในเดือนตามปฏิทินถัดจากวันเช็คเอาท์ (ตามกำหนด) ของลูกค้า ยกเว้นในกรณีต่อไปนี้:

(i) ที่พักได้ตกลงที่จะยกเว้นการเรียกเก็บราคาห้องพักตามข้อ 2.3.4 หรือ

(ii) มีการยกเลิกฟรีผ่าน Booking.com ตามนโยบายการยกเลิกการจองของที่พัก

2.4.2 คอมมิชชั่นจะต้องชำระตามข้อกำหนดต่อไปนี้:

(i) ใบแจ้งหนี้จะออกเป็นรายเดือน และจะมีให้ที่พักทางเอกซ์ทราเน็ต Booking.com อาจส่งใบแจ้งหนี้ให้ที่พักทางอีเมลด้วยเช่นกัน

(ii) ที่พักจะชำระใบแจ้งหนี้ภายใน 14 วันนับจากวันที่ออกใบแจ้งหนี้

(iii) ที่พักจะต้องทำการชำระเงินให้ Booking.com โดยตรงผ่านการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน (หากมี) หรือการหักบัญชีอัตโนมัติ หรือโดยการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารตามที่ Booking.com ระบุไว้ในกรณีที่ไม่สามารถหักบัญชีอัตโนมัติได้ Booking.com อาจชำระใบแจ้งหนี้ให้เป็นครั้งคราว (ทั้งหมดหรือบางส่วน) ตามข้อ 4.4 Booking.com ไม่สามารถดำเนินการชำระเงินด้วยวิธีอื่น ๆ (เช่น จ่ายด้วยเช็คหรือผ่านตัวแทนการชำระเงิน) ดังนั้น จึงจะไม่ยอมรับวิธีการชำระเงินอื่น ๆ เว้นแต่ Booking.com จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น ที่พักจะต้องรับผิดชอบค่าธรรมเนียมธนาคารทั้งหมดสำหรับการโอนเงิน

(iv) คอมมิชชั่นทั้งหมดจะต้องชำระเป็นเงินเต็มจำนวนโดยไม่มีการหักลดหย่อนหรือหักกลบลบหนี้ในส่วนที่เกี่ยวกับภาษี ภาษีนำเข้า อากร หรือภาษีหัก ณ ที่จ่ายในลักษณะใด ๆ ไม่ว่าจะกำหนดโดยหน่วยงานรัฐ หน่วยงานภาษีอาการ หรือหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งในปัจจุบันหรือในอนาคต หากที่พักจำต้องจ่ายคอมมิชชั่นโดยมีการหักลดหย่อนหรือมีภาษีหัก ณ ที่จ่าย จะต้องมีการชำระเพิ่มในส่วนดังกล่าวทั้งหมดให้กับ Booking.com ตามที่จำเป็นเพื่อรับรองว่า Booking.com จะได้รับเงินเต็มจำนวน (สุทธิ) ตามที่ระบุไว้ในใบแจ้งหนี้ ซึ่ง Booking.com ควรจะได้รับโดยไม่มีการหักลดหย่อน ที่พักจะเป็นผู้รับผิดชอบและมีภาระหน้าที่ในการชำระภาษี ภาษีนำเข้า อากร และภาษีหัก ณ ที่จ่ายที่นอกเหนือจากคอมมิชชั่นเต็มจำนวน (สุทธิ) ซึ่งที่พักต้องชำระให้ Booking.com

(v) ที่พักจะต้องชำระคอมมิชชั่นตามใบแจ้งหนี้ที่ออกโดย Booking.com ในสกุลเงิน (และตามอัตราแลกเปลี่ยนหากต้องใช้) ที่ระบุไว้ในใบแจ้งหนี้ Booking.com อาจเตรียมใบแจ้งหนี้ในสกุลเงินหลัก (เช่น EUR หรือ USD) หรือสกุลเงินท้องถิ่นของที่พัก โดยจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ Booking.com แต่เพียงผู้เดียว ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้จะต้องเป็นอัตราระหว่างธนาคาร (อัตราปิดตามเวลา 16.00 น. EST) ในวันสุดท้ายของเดือนซึ่งเกี่ยวข้องกับช่วงเวลาที่ออกใบแจ้งหนี้ โดยเป็นอัตราที่มีการใช้หรือประกาศโดยธนาคารหรือบริษัทผู้ให้บริการทางการเงินระหว่างประเทศรายหลัก ซึ่ง Booking.com เลือกใช้เป็นครั้งคราว

2.4.3 ที่พักจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อการหัก ณ ที่จ่ายและการรายงานภาษีทั้งหมดซึ่งเกี่ยวข้องกับคอมมิชชั่นตามข้อบังคับเกี่ยวกับภาษีที่เกี่ยวข้อง รวมถึงระเบียบปฏิบัติและคำร้องขอของหน่วยงานด้านภาษี ที่พักจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อการชำระเงินและการส่งเงินสำหรับภาษีที่เกี่ยวข้องกับคอมมิชชั่น รวมถึงค่าปรับและดอกเบี้ยจากการชำระเงินล่าช้าที่เกี่ยวข้องซึ่งเรียกเก็บโดยหน่วยงานด้านภาษี อันเป็นผลจากการที่ที่พักไม่สามารถรายงานหรือหักภาษีใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคอมมิชชั่น หากจำเป็น ที่พักจะต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวต่อการเจรจาและการตกลงกับหน่วยงานด้านภาษีที่เกี่ยวข้องในเรื่องภาระภาษีจากคอมมิชชั่นและการชำระเงินอื่น ๆ เมื่อที่พักส่งค่าคอมมิชชั่นในแต่ละครั้ง ที่พักจะต้องจัดสำเนาหนังสือรับรองการชำระภาษี และ/หรือหนังสือรับรองการยกเว้นภาษีให้แก่ Booking.com เมื่อ Booking.com ร้องขอ

2.4.4 ในกรณีที่มีข้อพิพาทระหว่าง Booking.com กับที่พัก (เช่น ข้อพิพาทเรื่องยอดคอมมิชชั่น) ที่พักจะชำระคอมมิชชั่นส่วนที่ไม่มีข้อพิพาทตามข้อกำหนดในข้อตกลงฉบับนี้ โดยไม่คำนึงถึงสถานะหรือลักษณะของข้อพิพาทแต่อย่างใด

2.4.5 หากที่พักชำระเงินแก่ Booking.com ล่าช้า Booking.com อาจเรียกเก็บดอกเบี้ยตามกฎหมาย ระงับการให้บริการภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ (เช่น ระงับการแสดงข้อมูลที่พักบนแพลตฟอร์ม) และ/หรือขอใช้การอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินหรือการหักบัญชีอัตโนมัติ ขอค่ามัดจำ หนังสือค้ำประกันจากธนาคาร หรือการประกันทางการเงินในรูปแบบอื่น ๆ จากที่พัก

2.4.6 Booking.com อาจขอให้ที่พักชำระค่ามัดจำให้ Booking.com โดยขั้นต่ำต้องเท่ากับยอดรวมใบแจ้งหนี้คอมมิชชั่นที่มียอดสูงสุด 3 ใบซึ่งครบกำหนดชำระหรือชำระแล้วให้กับ Booking.com ในช่วง 12 เดือนก่อนหน้า หรือเป็นจำนวนอื่น ๆ ที่ต่ำกว่าตามที่ Booking.com กำหนดอย่างสมเหตุสมผล (“ค่ามัดจำ”) Booking.com จะเก็บค่ามัดจำไว้เป็นหลักประกันสำหรับการดำเนินการด้านการชำระเงินและภาระผูกพันอื่นๆ ของที่พักภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ และ Booking.com จะร้องขอค่ามัดจำเฉพาะในกรณีที่ที่พักชำระเงินให้ Booking.com ล่าช้าเท่านั้น หลังจากข้อตกลงฉบับนี้ยุติลง Booking.com จะคืนค่ามัดจำ (หรือยอดเงินคงเหลือหลังจากหักคอมมิชชั่นค้างชำระ จำนวนเงินที่ขาดหายไป และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องชำระให้แก่ Booking.com) ให้กับที่พัก ค่ามัดจำที่เหลือจะจ่ายคืนให้กับที่พักภายใน 30 วันหลังจากที่มีการชำระภาระผูกพันและหนี้สินที่ที่พักค้างชำระเต็มจำนวนแล้ว (รวมถึงการชำระคอมมิชชั่นที่ค้างชำระ) หากมียอดคอมมิชชั่นค้างชำระมากกว่ายอดค่ามัดจำ หรือหากที่พักไม่ชำระคอมมิชชั่นตามวันที่กำหนดเป็นประจำ Booking.com อาจร้องขอเงินจำนวนเพิ่มเติมตามความเหมาะสมตามที่ Booking.com ระบุไว้อย่างสมเหตุสมผล Booking.com จะติดตามการดำเนินการ (การชำระเงิน) ของที่พักและอาจคืนเงินค่ามัดจำให้กับที่พักตามดุลยพินิจของ Booking.com จำนวนค่ามัดจำนั้นไม่ได้จำกัดหรือกำหนดเพดานความรับผิดของที่พักภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ ค่ามัดจำจะต้องไม่มีดอกเบี้ยแต่อย่างใด

2.5 การจอง การจองโดยลูกค้า การร้องเรียน และนโยบายเราเทียบราคาให้เท่าเทียม

2.5.1 ที่พักจะได้รับการยืนยันสำหรับการจองทุกรายการที่จองโดยลูกค้าผ่านแพลตฟอร์ม การยืนยันจะรวมถึงข้อมูลลูกค้า ซึ่งรวมถึงแต่ไม่ได้จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของลูกค้า Booking.com จะไม่รับผิดชอบต่อความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูล (รวมถึงข้อมูลบัตรเครดิต) และวันที่ลูกค้าให้ไว้ Booking.com จะไม่รับผิดชอบต่อภาระผูกพันในการชำระเงินของลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับการจอง ที่พักจะต้องตรวจสอบและยืนยันสถานะการจองเป็นประจำ (อย่างน้อยวันละครั้ง) บนเอกซ์ทราเน็ต ผ่าน Connectivity Provider (ตามที่เหมาะสมและสามารถทำได้) หรือวิธีอื่นที่ Booking.com อาจระบุไว้เป็นครั้งคราว Booking.com จะเก็บข้อมูลบัตรเครดิตไว้เป็นระยะเวลาจำกัดเท่านั้น

2.5.2 เมื่อมีการจองผ่านทางแพลตฟอร์ม จะถือเป็นการทำสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมายโดยตรงระหว่างที่พักกับลูกค้า (“การจองโดยลูกค้า”) Booking.com ไม่ใช่คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งในสัญญานี้ Booking.com ทำหน้าที่เป็นผู้ได้รับมอบอำนาจจากที่พัก (หมายถึง ตัวที่พัก) ที่ตั้งอยู่ในฝรั่งเศส

2.5.3 ที่พักต้องยอมรับลูกค้าเป็นคู่สัญญา และต้องดูแลจัดการการจองออนไลน์ให้สอดคล้องกับข้อมูลที่พักซึ่งปรากฏอยู่บนแพลตฟอร์ม ณ เวลาที่มีการทำการจอง รวมถึงข้อมูลเสริมและความประสงค์ (หากมี) ที่ลูกค้าได้แจ้งไว้

2.5.4 นอกเหนือจากค่าธรรมเนียม ค่าบริการพิเศษ และเงินที่เรียกเก็บที่ได้ระบุในการยืนยันการจองซึ่ง Booking.com ส่งให้ลูกค้า ที่พักจะไม่เรียกเก็บค่าธุรกรรม หรือค่าดำเนินการ หรือค่าธรรมเนียมจากการใช้วิธีการชำระเงินใด ๆ (เช่น ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต) จากลูกค้า

2.5.5 ในกรณีที่ลูกค้ามีข้อร้องเรียนหรือข้อเรียกร้องที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของที่พัก หรือมีคำขอที่เฉพาะเจาะจง ที่พักจะเป็นผู้ดำเนินการ โดย Booking.com จะไม่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด Booking.com จะไม่รับผิดชอบรวมถึงปฏิเสธความรับผิดที่เกี่ยวกับข้อร้องเรียนหรือข้อเรียกร้องดังกล่าว Booking.com อาจใช้ดุลยพินิจแต่เพียงผู้เดียวในการดำเนินการต่อไปนี้:

(i) ให้บริการลูกค้า (สัมพันธ์) แก่ลูกค้า

(ii) ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างที่พักและลูกค้า และ

(iii) จัดหาที่พักทางเลือกที่มีมาตรฐานเท่ากันหรือดีกว่าในกรณีที่มีการจองเกินจำนวนจัดสรร หรือมีความผิดปกติหรือข้อร้องเรียนอื่น ๆ ที่เป็นสาระสำคัญซึ่งเกี่ยวข้องกับที่พัก โดยทางที่พักจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง

2.5.6 ในกรณีที่ Booking.com มีสิทธิได้รับความเท่าเทียมด้านราคาและเงื่อนไข หรือความเท่าเทียมด้านราคา และลูกค้ามีข้อเรียกร้องที่มีเหตุผลภายใต้นโยบายเราเทียบราคาให้เท่าเทียมนั้น Booking.com จะแจ้งให้ที่พักทราบทันทีถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้องดังกล่าว ที่พักจะปรับราคาที่ปรากฏบนแพลตฟอร์มทันทีเพื่อให้ราคาที่ต่ำกว่านั้นพร้อมสำหรับการจองในภายหลัง นอกจากนี้ ที่พักจะต้องปรับราคาที่ปรากฏในการจองของลูกค้าทีมีข้อเรียกร้องโดยทันที เมื่อลูกค้าเช็คเอาท์ ที่พักจะต้องเสนอราคาห้องพักที่ต่ำกว่า และจะต้อง (i) จัดการเรื่องส่วนต่างระหว่างราคาที่ลูกค้าได้เมื่อจองกับราคาที่ต่ำกว่า โดยเรียกเก็บเงินจากลูกค้าในราคาที่ต่ำกว่า หรือ (ii) คืนส่วนต่างระหว่างทั้งสองราคาให้แก่ลูกค้า (เป็นเงินสด)

2.5.7 ข้อ 2.5.6 จะไม่นำไปใช้กับที่พัก (ซึ่งหมายถึง ตัวที่พัก) ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศที่ไม่สามารถขอความเท่าเทียมในการขาย

2.6 การจองเกินจำนวนจัดสรรและการยกเลิกการจอง

2.6.1 ที่พักจะจัดเตรียมห้องที่จองไว้ให้กับลูกค้า ในกรณีที่ที่พักไม่สามารถปฏิบัติตามภาระผูกพันภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ที่พักจะแจ้งให้ Booking.com ทราบโดยทันทีผ่านบริการลูกค้าสัมพันธ์ (customer.service@booking.com) ตามขั้นตอนเกี่ยวกับการจองเกินจำนวนจัดสรรของ Booking.com ที่กำหนดไว้ในศูนย์สนับสนุนคู่ค้า ที่พักจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการจัดหาห้องพักทดแทนที่มีคุณภาพเท่าเทียมหรือดีกว่าและจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง เว้นแต่ Booking.com ได้จัดหาที่พักทดแทนให้ (และที่พักได้ตรวจสอบยืนยันแล้ว) หากไม่มีห้องพักดังกล่าวในวันที่เช็คอิน ที่พักจะดำเนินการดังต่อไปนี้:

(i) จัดหาที่พักทดแทนที่เหมาะสม ซึ่งมีมาตรฐานเท่าเทียมหรือดีกว่าที่พักซึ่งได้การจองที่มีการรับประกันของลูกค้า

(ii) จัดเตรียมพาหนะส่วนตัวไปยังที่พักทดแทนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าและสมาชิกในกลุ่มของลูกค้าซึ่งมีรายชื่ออยู่ในการจองที่มีการรับประกันของลูกค้า และ

(iii) คืนเงินและชดเชยต่อ Booking.com และ/หรือลูกค้าสำหรับค่าใช้จ่ายตามสมควรทั้งหมด (เช่น ค่าที่พักทดแทน ค่าเดินทาง ค่าโทรศัพท์) ซึ่งเกิดขึ้นต่อลูกค้าและ/หรือ Booking.com อันเนื่องมาจากการจองเกินจำนวนจัดสรร ที่พักจะต้องชำระจำนวนเงินที่ต้องชำระแก่ Booking.com ภายใต้ข้อ 2.6.1 นี้ภายใน 14 วันหลังจากได้รับใบแจ้งหนี้

2.6.2 ที่พักไม่สามารถยกเลิกการจองออนไลน์ใด ๆ ในกรณีที่มีการกล่าวหาหรือสงสัยว่ามีการฉ้อโกง (เช่น ในส่วนที่เกี่ยวกับการจอง การฉ้อโกงบัตรเครดิต การฟอกเงิน หรือการชำระราคาห้องพัก) Booking.com อาจยกเลิกการจองที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่มีการใช้การอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน Booking.com อาจไม่อนุมัติ ระงับ หรือยกเลิกการโอนเงินที่เกี่ยวข้องไปยังที่พัก หรือดำเนินการปฏิเสธการชำระเงินที่เกี่ยวข้องจากที่พัก Booking.com จะแจ้งให้ที่พักทราบว่าได้ดำเนินการใดไปบ้างตามข้อ 2.6.2 นี้

2.6.3 การจองที่ลูกค้ายกเลิกก่อนจุดเวลาที่จะเกิดค่าธรรมเนียมยกเลิกนั้นจะไม่ก่อให้เกิดคอมมิชชั่น การจองที่ลูกค้ายกเลิกภายหลังจากจุดเวลานี้จะก่อให้เกิดคอมมิชชั่นตามข้อกำหนดของข้อตกลงฉบับนี้

2.7 บัตรเครดิต

2.7.1 ข้อ 2.7 นี้จะไม่นำไปใช้กับการจองที่ชำระผ่านการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน ที่พักต้องได้รับข้อมูลบัตรเครดิตเพื่อเป็นการประกันการจอง ที่พักจะรับบัตรเครดิตรายใหญ่ทั้งหมดเสมอ (ซึ่งรวมถึง MasterCard, Visa และ American Express) เพื่อเป็นการประกันการจอง ที่พักจะเป็นผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลบัตรเครดิต การกันวงเงิน (ล่วงหน้า) จากบัตรเครดิต ตลอดจนยืนยันว่าวงเงินของเครดิต ณ วันที่มีการจองการเข้าพักค้างคืนนั้นเพียงพอ ที่พักจะต้องตรวจสอบและกันวงเงินบัตรเครดิตล่วงหน้าอย่างทันท่วงทีเมื่อได้รับการจอง หากไม่สามารถประกันการจองด้วยบัตรเครดิตได้ ที่พักจะต้องแจ้ง Booking.com ทันที และ Booking.com จะขอให้ลูกค้าประกันการจองด้วยวิธีอื่น หากลูกค้าไม่สามารถหรือไม่ประสงค์ที่จะทำเช่นนั้น Booking.com อาจยกเลิกการจองหากที่พักร้องขอ หากบัตรเครดิต (หรือการรับประกันอื่นใดที่ลูกค้าเป็นผู้ดำเนินการ) ไม่สามารถใช้งานได้หรือไม่ถูกต้องด้วยเหตุผลใดก็ตาม ที่พักจะเป็นผู้รับความเสี่ยงดังกล่าวเสมอ การจองที่ Booking.com ยกเลิกตามข้อ 2.7.1 นี้จะไม่ก่อให้เกิดค่าคอมมิชชั่นใด ๆ

2.7.2 หากที่พักรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตก่อนวันที่เช็คอิน ที่พักจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้อธิบายเงื่อนไขการชำระเงินล่วงหน้า รวมถึงข้อกำหนดด้านราคา ข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินล่วงหน้าดังกล่าวให้ลูกค้าทราบอย่างชัดเจนในข้อมูลที่พัก

2.7.3 ที่พักจะเป็นผู้รับผิดชอบในการเรียกชำระเงินจากลูกค้าสำหรับการเข้าพัก ค่าธรรมเนียมการไม่เข้าเช็คอิน และ/หรือการยกเลิกการจองที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม รวมถึงภาษีที่เกี่ยวข้องซึ่งที่พักต้องรับผิดชอบและจะส่งให้หน่วยงานด้านภาษีที่เกี่ยวข้อง โดยจะต้องมีการเรียกชำระเงินจากบัตรเครดิตในสกุลเงินเดียวกันกับที่ระบุไว้ในการจองของลูกค้า ในกรณีที่ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ที่พักอาจเรียกชำระเงินจากบัตรเครดิตของลูกค้าในสกุลเงินอื่นด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่สมเหตุสมผลและเป็นธรรม

2.7.4 ในการดำเนินการกับข้อมูลบัตรชำระเงินที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงนี้ ที่พักและผู้ให้บริการของที่พักจะปฏิบัติตามข้อกำหนด เกณฑ์การปฏิบัติตาม และขั้นตอนการตรวจสอบที่กำหนดไว้ในมาตรฐานความปลอดภัยทางข้อมูลของอุตสาหกรรมบัตรชำระเงินฉบับปัจจุบันที่ใช้อยู่ในขณะนั้นซึ่งออกโดยบริษัทบัตรเครดิตรายใหญ่เสมอ

2.7.5 ในกรณีที่มีการเสนอห้องพักแบบรับชำระด้วยเงินสดเท่านั้น Booking.com จะไม่ให้ข้อมูลบัตรเครดิตแก่ที่พักสำหรับการประกันการจอง

2.8 การใช้งานข้อมูลและบริการออนไลน์ของ Booking.com

2.8.1 คู่สัญญาจะต้องปฏิบัติตามภาคผนวก 1 (แนวทางความเป็นส่วนตัวของข้อมูล) และ 2 (ความปลอดภัย และการละเมิดข้อมูล) ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลที่เป็นความลับและข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ข้อตกลงนี้

2.8.2 ที่พักยอมรับที่จะปฏิบัติตาม และทำให้แน่ใจว่าบุคคลที่ดำเนินการในนามของตนจะปฏิบัติตามข้อกำหนดการใช้งานแอคเคาท์คู่ค้าธุรกิจของ Booking.com ตามที่ปรากฏบนแพลตฟอร์ม โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่ขัดแย้งกันในข้อตกลงฉบับนี้

2.9 บริการรับส่งข้อมูลทางข้อความ

2.9.1 Booking.com อาจอำนวยความสะดวกด้านการสื่อสารระหว่างลูกค้า ที่พัก และ Booking.com (“บริการรับส่งข้อมูลทางข้อความ”) เป็นครั้งคราวเนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของบริการที่มีให้กับลูกค้าและที่พัก Booking.com อาจดำเนินการ (รวมถึงการจัดเก็บ การรับ การเข้าถึง ข้อมูลเชิงลึก และการคัดกรอง) กับการสื่อสารที่ส่งผ่านบริการรับส่งข้อมูลทางข้อความ (“การสื่อสาร”) เพื่อใช้ในการให้บริการแก่ลูกค้าและที่พัก

2.9.2 ที่พักเข้าใจและยอมรับว่า Booking.com จะดำเนินการ (รวมถึงการจัดเก็บ การรับ การเข้าถึง ข้อมูลเชิงลึก และการคัดกรอง) กับการสื่อสาร และรับประกันว่าทางที่พักได้แจ้ง (และได้รับการอนุญาตที่จำเป็นทั้งหมดตามที่กฎหมายกำหนดจาก) ลูกจ้าง ตัวแทน ผู้แทน พนักงาน และบุคคลอื่น ๆ ก่อนใช้บริการรับส่งข้อมูลทางข้อความเพื่อหรือในนามของที่พัก

2.9.3 ที่พักจะไม่ใช้บริการรับส่งข้อมูลทางข้อความเพื่อส่งการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่พึงประสงค์ไปยังบุคคลใด ๆ และจะชดใช้ค่าเสียหายแก่ Booking.com เต็มจำนวนสำหรับข้อเรียกร้องจากบุคคลที่สามและค่าปรับใด ๆ อันเป็นผลมาจากการที่ที่พักใช้บริการรับส่งข้อมูลทางข้อความโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ได้รับอนุญาต

2.10 เหตุสุดวิสัย

2.10.1 ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัย ที่พักจะไม่เรียกชำระและจะคืนค่าธรรมเนียม ต้นทุน ค่าใช้จ่าย หรือยอดอื่นใด (รวมถึงราคา (ที่ไม่สามารถรับเงินคืนได้) หรือค่าธรรมเนียมการไม่เข้าเช็คอิน (การเปลี่ยนแปลง) การจอง หรือการยกเลิกการจอง) หากมี สำหรับกรณีต่อไปนี้:

(i) การยกเลิกหรือการเปลี่ยนแปลงการจองใด ๆ โดยลูกค้า หรือ

(ii) ส่วนของการจองที่ไม่ได้เข้าพักเนื่องจากเหตุสุดวิสัย

2.10.2 ในกรณีที่มีข้อสงสัยอันสมเหตุสมผลและพิสูจน์แล้ว ที่พักอาจขอให้ลูกค้าแสดงหลักฐานที่เหมาะสมซึ่งบ่งชี้ว่าเหตุสุดวิสัยเป็นสาเหตุของการยกเลิกการจอง การไม่เข้าเช็คอิน หรือการปรับเปลี่ยนการจอง ที่พักจะต้องมอบสำเนาของหลักฐานดังกล่าวให้ Booking.com เมื่อมีการร้องขอ นอกจากนี้ เพื่อให้ Booking.com สามารถลงบันทึกเกี่ยวกับการยกเลิก การไม่เข้าเช็คอิน หรือการปรับเปลี่ยนการจองอันเนื่องมาจากเหตุสุดวิสัย ที่พักจะต้องแจ้งจำนวนวันตามที่มีการเข้าพักจริงแก่ Booking.com ภายใน 2 วันทำการหลังจากวันที่มีกำหนดเช็คเอาท์ของการจองซึ่งลูกค้าไม่เข้าเช็คอินหรือยกเลิก หรือหลังจากวันที่มีการเช็คเอาท์จริง โดย Booking.com จะไม่เรียกเก็บคอมมิชชั่นใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจองในส่วนที่ไม่ได้ใช้บริการเนื่องจากเหตุสุดวิสัย

3. สิทธิ/การอนุญาตให้ใช้งานและข้อมูล

3.1 ที่พักมอบสิทธิและการอนุญาต (หรือมอบสิทธิช่วงตามความเหมาะสม) แบบไม่ผูกขาด แบบที่ผู้ไม่มีสิทธิสามารถนำไปใช้ได้เมื่อขออนุญาต และแบบใช้ได้ทั่วโลกให้ Booking.com ทำสิ่งต่อไปนี้:

(i) นำทรัพย์สินทางปัญญาของที่พักตามที่ให้ไว้แก่ Booking.com ตามข้อตกลงฉบับนี้ และที่จำเป็นต่อ Booking.com ในการใช้สิทธิและดำเนินการตามภาระผูกพันภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ไปใช้ ทำซ้ำ มีการทำซ้ำ แจกจ่าย มอบสิทธิช่วง สื่อสาร มีให้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม รวมถึงแสดงผล และ

(ii) นำข้อมูลที่พักไปใช้ ทำซ้ำ มีการทำซ้ำ ดำเนินการ แจกจ่าย มอบสิทธิช่วง แสดงผล และใช้ประโยชน์ (โดยรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะการเผยแพร่ต่อสาธารณะ เปลี่ยนแปลง ปรับ สื่อสาร ทำซ้ำ คัดลอก และแสดงต่อสาธารณะด้วยวิธีการใดก็ตามแต่)

3.2 Booking.com อาจมอบสิทธิช่วง มีให้ เปิดเผย และเสนอผ่านหรือร่วมมือกับบริษัทแอฟฟิลิเอตและ/หรือแพลตฟอร์มบุคคลที่สามสำหรับสิ่งต่อไปนี้:

(i) ข้อมูลที่พัก

(ii) ทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องของที่พัก

(iii) ข้อมูลติดต่อหลักของที่พัก

(iv) ข้อเสนอพิเศษทีที่พักมีให้บนแพลตฟอร์ม และ

(v) สิทธิและการอนุญาตอื่น ๆ ดังกล่าวทั้งหมดที่กำหนดไว้ในข้อตกลงฉบับนี้

Booking.com จะไม่รับผิดใด ๆ ต่อที่พักสำหรับการกระทำหรือการละเว้นโดยแพลตฟอร์มบุคคลที่สามใด ๆ

3.3 Booking.com อาจแสดงเนื้อหาใด ๆ/ทั้งหมดของแพลตฟอร์มบนแพลตฟอร์มและเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ในกรณีที่ Booking.com แบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าและข้อมูลที่พักอื่น ๆ กับบุคคลที่สาม ซึ่งไม่จำเป็นต่อการทำงานที่เหมาะสมของแพลตฟอร์ม ที่พักอาจดำเนินการดังต่อไปนี้:

(i) แก้ไขการตั้งค่าการแบ่งปันข้อมูล (หากทำได้) โดยใช้เครื่องมือให้เลือกถอนตัวในการตั้งค่าบัญชี หรือหากไม่มีเครื่องมือให้เลือกถอนตัว

(ii) ติดต่อ Booking.com ที่ dataprotectionoffice@booking.com และร้องขอให้ทำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าการแบ่งปันข้อมูล หากกฎหมายเทคโนโลยีและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้

3.4 ข้อมูลที่ Booking.com รวบรวมเกี่ยวกับที่พัก (รวมถึงพนักงานของที่พัก ตัวแทน ผู้แทน และบุคคลอื่น ๆ) หรือข้อมูลที่สร้างขึ้นจากการใช้งานแพลตฟอร์มของที่พักนั้นขึ้นอยู่บริบทของความสัมพันธ์เชิงธุรกิจและการมีปฏิสัมพันธ์ของที่พักกับ Booking.com ตลอดจนตัวเลือกของที่พัก รวมถึงผลิตภัณฑ์ บริการ และคุณลักษณะที่ใช้ ข้อมูลดังกล่าวอาจรวมถึงสิ่งต่อไปนี้:

(i) ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลติดต่อ ข้อมูลด้านการเงิน ข้อมูลบริการคู่ค้า การทำการตลาดคู่ค้า และ

(ii) ข้อมูลสำหรับใช้ตรวจสอบยืนยัน ข้อมูลเกี่ยวกับภาวะไม่สามารถชำระหนี้ได้ การตรวจหาการฉ้อโกง คำขอจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและหน่วยงานด้านภาษี อีกทั้งการวิเคราะห์และข้อมูลการใช้ผลิตภัณฑ์

ที่พักอาจเข้าถึงข้อมูลที่ระบุไว้ในข้อ 3.4(i) ผ่านทางเอกซ์ทราเน็ต

3.5 ข้อมูลที่ Booking.com รวบรวมเกี่ยวกับลูกค้าขึ้นอยู่กับบริบทของการมีปฏิสัมพันธ์ของลูกค้ากับ Booking.com ตลอดจนตัวเลือกของลูกค้า รวมถึงผลิตภัณฑ์ บริการ และคุณลักษณะที่ใช้ ข้อมูลอาจรวมข้อมูลการจอง ข้อมูลการชำระเงิน ข้อมูลแอคเคาท์ ข้อมูลบริการลูกค้าสัมพันธ์ รีวิว การทำการตลาดลูกค้า อีกทั้งการวิเคราะห์และข้อมูลการใช้ผลิตภัณฑ์ ที่พักอาจเข้าถึงข้อมูลนี้ผ่านเอกซ์ทราเน็ต (ในกรณีที่จำเป็นและในกรณีของการวิเคราะห์และข้อมูลการใช้งานในรูปแบบรวม)

3.6 Booking.com สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ระบุไว้ในข้อ 3.4 และ 3.5 เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงวัตถุประสงค์ต่อไปนี้:

(i) เพื่อให้บริการ (รวมถึงเพื่อทำ ดูแล และจัดการการจอง หรือดูแลจัดการการชำระเงิน)

(ii) เพื่อให้บริการลูกค้าสัมพันธ์

(iii) เพื่อตรวจสอบ ป้องกัน และสืบสวนการฉ้อโกง รวมทั้งการกระทำผิดกฎหมายอื่น ๆ และการละเมิดข้อมูล

(iv) เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการวิเคราะห์และการพัฒนาผลิตภัณฑ์

(v) เพื่อการอัปเดตบริการและการตลาด

(vi) เพื่อการโฮสติ้ง การสนับสนุนทางเทคนิค การบำรุงรักษาโดยรวม และการรักษาความปลอดภัยให้กับข้อมูลที่มีการแบ่งปันดังกล่าว และ

(vii) เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่บังคับใช้

3.7 ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีที่ Booking.com รวบรวม ใช้ แบ่งปัน หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในแถลงการณ์ความเป็นส่วนตัวบนแพลตฟอร์ม ซึ่งจะมีการอัปเดตเป็นครั้งคราว

4. การจัดอันดับ รีวิวจากผู้เข้าพัก การทำการตลาด และการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน

4.1 การจัดอันดับ

4.1.1 Booking.com มีเป้าหมายที่จะแสดงผลการค้นหาซึ่งสอดคล้องกับลูกค้าแต่ละรายโดยเฉพาะ โดยแสดงการจัดอันดับที่พักตั้งต้นที่ปรับให้เหมาะกับลูกค้ารายนั้น ๆ บนแพลตฟอร์ม ตัวแปรหลักที่กำหนดอันดับและเหตุผลที่ตัวแปรหลักเหล่านั้นมีความสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับตัวแปรอื่น ๆ มีระบุไว้ในภาคผนวก 4 และบนแพลตฟอร์ม

4.2 รีวิวจากผู้เข้าพัก

4.2.1 Booking.com จะขอให้ลูกค้าที่ได้ไปถึงที่พักหรือเข้าพัก ณ ที่พักแล้วแสดงความคิดเห็นและให้คะแนนในบางด้านเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ได้รับจากที่พัก Booking.com อาจโพสต์รีวิวเหล่านี้บนแพลตฟอร์ม Booking.com เป็นผู้แสดง แต่ไม่ใช่ผู้เขียนรีวิวเหล่านี้ Booking.com จะประเมินรีวิวจากผู้เข้าพักโดยอิงตามนโยบายที่เกี่ยวข้อง Booking.com จะไม่รับผิดเกี่ยวกับรีวิวจากผู้เข้าพักที่แสดงหรือไม่ได้แสดงอยู่บนแพลตฟอร์มตามกฎหมายที่ใช้บังคับ

4.2.2 Booking.com อาจใช้ดุลยพินิจแต่เพียงผู้เดียวในการระงับไม่ให้แสดงรีวิวบนแพลตฟอร์ม ลบรีวิว หรือขอให้ผู้เข้าพักแก้ไขรีวิว หากรีวิวดังกล่าวระบุหรืออ้างถึงสิ่งใดก็ตามที่ Booking.com พิจารณาตามสมควรแล้วว่าไม่เหมาะสมและ/หรือสร้างความขุ่นเคือง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่ได้จำกัดเพียงสิ่งต่อไปนี้:

(i) ความคิดเห็นทางการเมืองที่ละเอียดอ่อน

(ii) การกระทำผิดกฎหมาย

(iii) ข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลที่มีความอ่อนไหว (เช่น อีเมล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หรือข้อมูลบัตรเครดิต)

(iv) เว็บไซต์อื่น ๆ

(v) คำหยาบคาย การอ้างอิงทางเพศ คำพูดแสดงความเกลียดชัง คำพูดที่เลือกปฏิบัติ การข่มขู่ การดูหมิ่น หรือการอ้างอิงถึงความรุนแรง

4.2.3 ที่พักจะต้องไม่จัดดำเนินการหรือพยายามจัดดำเนินการรีวิวจากผู้เข้าพัก ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม (เช่น โดยการจ่ายเงินเพื่อให้เขียนรีวิวเชิงบวก หรือโดยการโพสต์รีวิวปลอมเกี่ยวกับที่พักคู่แข่ง) การละเมิดข้อ 4.2.3 นี้จะถือเป็นการยุติข้อตกลงฉบับนี้ภายใต้ข้อ 7.3(xi)

4.2.4 รีวิวจากผู้เข้าพักมีไว้เพื่อให้ Booking.com ใช้งานเท่านั้น ที่พักไม่มีสิทธินำรีวิวจากผู้เข้าพักไปใช้ ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าจาก Booking.com

4.3 การทำการตลาด (ออนไลน์) และการโฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก

4.3.1 Booking.com ทำแคมเปญการทำการตลาดออนไลน์โดยออกค่าใช้จ่ายเองและด้วยดุลยพินิจของตนเอง และอาจโปรโมตที่พักโดยใช้ชื่อของที่พักในการทำการตลาดนี้ ซึ่งรวมถึงการทำการตลาดทางอีเมลและการโฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก (PPC)

4.3.2 ที่พักทราบถึงวิธีการทำงานของเสิร์ชเอนจิน (เช่น การใช้โปรแกรมรวบรวมเนื้อหา (Spider) และการจัดอันดับ URL) หากที่พักทราบถึงพฤติกรรมของแพลตฟอร์มบุคคลที่สามที่ละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของที่พัก ที่พักจะต้องแจ้ง Booking.com เป็นลายลักษณ์อักษรทันทีพร้อมรายละเอียดของความประพฤติดังกล่าว และ Booking.com จะใช้ความพยายามตามสมควรในเชิงพาณิชย์เพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการแก้ไขการละเมิดดังกล่าว

4.3.3 ที่พักตกลงที่จะไม่ใช้แบรนด์/โลโก้ของ Booking.com (รวมถึงชื่อทางการค้า เครื่องหมายการค้า ชื่อบริการ หรือสิ่งอื่นที่ใช้ระบุตัวตนหรือแหล่งที่มาซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกัน) ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม เพื่อใช้ในการเปรียบเทียบราคาหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด ไม่ว่าจะเป็นบนแพลตฟอร์มของที่พัก หรือแพลตฟอร์ม ระบบ เครื่องมือ หรือสิ่งอื่น ๆ ของบุคคลที่สาม เว้นแต่จะได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าจาก Booking.com ที่พักจะต้องไม่ใช้หรือสร้างโฆษณาแบบจ่ายต่อคลิก (PPC) บนเว็บไซต์ค้นหาหรือเมตาเสิร์ชอื่น ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งโฆษณานั้นเชื่อมโยงหรือเปลี่ยนเส้นทางไปหน้าแลนดิ้งเพจของที่พักบนแพลตฟอร์มซึ่งที่พักดังกล่าวได้โฆษณาหรือส่งเสริมการขายอยู่ ที่พักอาจเสนอราคาหรือใช้แบรนด์ Booking.com สำหรับการโฆษณาผ่านการตลาดออนไลน์และการโฆษณาแบบจ่ายต่อคลิกของตนเองได้

4.4 การอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน

4.4.1 ที่พักรับทราบถึงการรับและยอมรับข้อกำหนดเรื่องการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินตามที่ระบุไว้ในภาคผนวก 3A 3B และ 3C สำหรับการอำนวยความสะดวกด้านการชำระราคาห้องพักโดยลูกค้าให้กับที่พัก นอกจากนี้ยังรวมถึงสำหรับการชำระคอมมิชชั่นโดยที่พักให้กับ Booking.com (ตามแต่กรณี) เป็นต้น Booking.com สามารถแก้ไขข้อกำหนดเรื่องการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินได้เป็นครั้งคราวโดยจะแจ้งที่พักเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า 15 วัน

5. การรับรองและการรับประกัน

5.1 ที่พักรับรองและรับประกันต่อ Booking.com ว่า ตามในระหว่างระยะเวลาของข้อตกลงฉบับนี้นั้น:

(i) ที่พักมีสิทธิ อำนาจ และความชอบธรรมตามที่จำเป็นทั้งหมดในการใช้ ดำเนินการ ครอบครอง (ตามที่เหมาะสม) มอบสิทธิ (ช่วง) และอนุญาตให้ Booking.com ทำให้ที่พักปรากฏบนแพลตฟอร์ม รวมถึงทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับที่พักตามที่ระบุหรืออ้างถึงในข้อมูลที่พัก

(ii) ที่พักมีและปฏิบัติอย่างสอดคล้องกับสิทธิ การอนุญาตและอำนาจรัฐต่าง ๆ การจดทะเบียนและข้อกำหนด (รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลที่จำเป็นกับหน่วยงานต่าง ๆ) ที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการทำให้ที่พักปรากฏบนแพลตฟอร์มเพื่อการจอง

(iii) ที่พักได้จดทะเบียนกับหน่วยงานด้านภาษีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างถูกต้อง (รวมถึงหน่วยงานจัดเก็บภาษีอากรตามกฎหมาย (ในท้องถิ่น) ที่เกี่ยวข้อง) ในฐานะโรงแรมหรือผู้ให้บริการที่พักประเภทอื่น

(iv) ที่พักจะไม่ขายหรือเสนอขายแพ็กเกจใด ๆ บนแพลตฟอร์มในความหมายตามที่ระบุไว้ในกฎหมายระดับชาติที่บังคับใช้ เกี่ยวข้องกับ หรือคล้ายกันในสาระสำคัญกับ Directive (EU) 2015/2302 ของรัฐสภายุโรปและสภาเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 2015 เกี่ยวกับแพ็กเกจการเดินทางและการจัดการการเดินทางแบบเชื่อมโยงกัน (“คำสั่งด้านแพ็กเกจการเดินทาง”) เว้นแต่จะได้รับการอนุมัติล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Booking.com

(v) ราคาสำหรับห้องพักที่โฆษณาบนแพลตฟอร์มนั้นเท่ากับหรือดีกว่าราคาที่ดีที่สุดที่มีสำหรับการเข้าพักที่เทียบเท่ากันตามที่มีการทำการตลาดออนไลน์ เผยแพร่ออนไลน์ หรือเปิดให้มีทางออนไลน์โดยที่พักบนเว็บไซต์ของตนเอง และลูกค้าไม่สามารถหาราคาที่ดีกว่าได้หากทำการจองกับที่พักโดยตรงบนเว็บไซต์หรือแอปของที่พัก ยกเว้นในกรณีที่ที่พัก (ซึ่งหมายถึง “ตัวที่พัก”) ตั้งอยู่ในประเทศที่ไม่สามารถขอความเท่าเทียมในการขาย (ซึ่งในกรณีนี้จะไม่ใช้ข้อ 5.1 (v) นี้) หรือในกรณีที่ที่พักจัดตั้งขึ้นในประเทศที่มีข้อจำกัดต่ำด้านความเท่าเทียมในการขาย (ซึ่งในกรณีนี้ข้อความของข้อ 5.1 (v) จะถูกลบออกและแทนที่ด้วยข้อความในภาคผนวก 5)

(vi) ที่พัก (ซึ่งในวัตถุประสงค์ของการรับประกันนี้ครอบคลุมทั้งผู้ให้บริการและเจ้าของที่พัก) และกรรมการ รวมถึงเจ้าของผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง โดยอ้อม และในทอดสุดท้ายของที่พัก และกรรมการของเจ้าของ และบุคคลที่สามที่ทำงานให้หรือในนามของที่พัก จะต้องไม่มีลักษณะดังต่อไปนี้:

(a) มีความเกี่ยวพันในทางใดก็ตามกับผู้ก่อการร้ายหรือองค์กรก่อการร้าย

(b) อยู่ในรายชื่อบุคคล/คู่สัญญาที่ถูกคว่ำบาตรหรือถูกจำกัด หรือ

(c) มีถิ่นที่อยู่อาศัยปกติในหรือจัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายของเขตอำนาจศาลใด ๆ ที่อยู่ภายใต้การคว่ำบาตรโดยเบ็ดเสร็จหรือการคว่ำบาตรทั่วดินแดนอื่น ๆ

เป็นบุคคลที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องห้ามไม่ให้ทำธุรกิจด้วย

ที่พักจะต้องไม่ดำเนินการใด ๆ อันเป็นการละเมิด หรือทำให้ Booking.com ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรที่บังคับใช้ ที่พักจะต้องแจ้ง Booking.com โดยทันทีในกรณีที่มีการละเมิดข้อ 5.1 (vi) นี้ ทั้งที่เกิดขึ้นจริงหรือต้องสงสัย และ

(vii) ที่พักจะดำเนินการดังนี้:

(a) เคารพสิทธิมนุษยชนของพนักงานและลูกค้า และไม่จ้างแรงงานเด็ก แรงงานบังคับ หรือไม่มีสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัย

(b) ไม่เกี่ยวข้องหรืออนุญาตให้มีการเลือกปฏิบัติบนพื้นฐานของเชื้อชาติ ศาสนา ความทุพพลภาพ หรือเพศสภาพ หรือการปฏิบัติที่โหดร้ายหรือไม่เหมาะสมในที่พัก

(c) จ่ายเงินให้พนักงานแต่ละคนตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างน้อย มอบสิทธิประโยชน์ทั้งหมดที่พึงได้รับตามกฎหมาย และปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับชั่วโมงการทำงานและสิทธิลูกจ้างในเขตอำนาจศาลที่ที่พักดำเนินการอยู่ และ

(d) จะต้องไม่กักขังบุคคลใด ๆ ไว้ในความเป็นทาสหรือภาวะจำยอม หรือจัดเตรียมหรืออำนวยความสะดวกในการเดินทางหรือพักอาศัยของบุคคลอื่นโดยมีเจตนาว่าบุคคลนั้นถูกแสวงหาประโยชน์

ที่พักจะสนับสนุนให้มีการปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ในข้อ 5.1 (vii) นี้โดยผู้จัดหาสินค้าหรือบริการใด ๆ ซึ่งที่พักใช้ในการปฏิบัติตามภาระผูกพันภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้

5.2 คู่สัญญาแต่ละฝ่ายรับรองและรับประกันต่อคู่สัญญาอีกฝ่ายว่าในระหว่างระยะเวลาของข้อตกลงฉบับนี้นั้น:

(i) แต่ละฝ่ายมีอำนาจและความชอบธรรมในเชิงองค์กรอย่างเต็มที่ในการเข้าทำและปฏิบัติตามภาระผูกพันภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้

(ii) แต่ละฝ่ายมีการดำเนินการในเชิงองค์กรทั้งหมดตามที่จำเป็นเพื่อให้อำนาจในการดำเนินการและการปฏิบัติตามข้อตกลงฉบับนี้

(iii) ข้อตกลงฉบับนี้ถือเป็นภาระผูกพันซึ่งมีผลตามกฎหมายและมีผลผูกมัดกับฝ่ายนั้น ๆ ตามข้อกำหนดของข้อตกลงฉบับนี้ และ

(iv) แต่ละฝ่ายจะปฏิบัติตามทุกสาระสำคัญของกฎหมาย ประมวลกฎหมาย ข้อบังคับ ข้อบัญญัติ และกฎทั้งหมดจากภาครัฐที่มีผลบังคับใช้ ซึ่งเป็นของประเทศ รัฐ หรือเทศบาล และคู่สัญญาฝ่ายที่เกี่ยวข้องจัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายดังกล่าว (และในส่วนที่เกี่ยวกับที่พัก รวมถึงเขตอำนาจศาลที่ที่พักตั้งอยู่) โดยเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ และ/หรือบริการที่มอบให้โดยคู่สัญญาฝ่ายนั้น ๆ

5.3 คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะไม่รับรองหรือรับประกัน (ไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยนัย) เกี่ยวกับสาระสำคัญของข้อตกลงฉบับนี้ และปฏิเสธการรับประกันโดยนัยทั้งหมด รวมถึงการรับประกันโดยนัยทั้งหมดของความสามารถในการซื้อขายได้หรือความเหมาะสมตามวัตถุประสงค์เฉพาะเกี่ยวกับสาระสำคัญดังกล่าว เว้นแต่มีการระบุไว้เป็นอย่างอื่นโดยชัดแจ้งในข้อตกลงฉบับนี้

5.4 Booking.com ไม่ร่วมรับผิดและปฏิเสธความรับผิดทั้งหมดเกี่ยวกับที่พัก ซึ่งเกี่ยวข้องกับสิ่งต่อไปนี้:

(i) ความขัดข้อง การหยุดชั่วคราว การหยุดทำงาน การหยุดชะงัก หรือการไม่ให้บริการ (ชั่วคราว และ/หรือบางส่วน) ของแพลตฟอร์ม บริการ และ/หรือเอกซ์ทราเน็ต และ

(ii) (การเชื่อมต่อกับ) Connectivity Provider หรือบริการ Connectivity ใด ๆ ที่ที่พักใช้เพื่อส่งข้อมูลที่พัก

5.5 Booking.com ให้ และที่พักยอมรับบริการ แพลตฟอร์ม และเอกซ์ทราเน็ตในสถานะ “ตามสภาพที่เป็นอยู่” และ “ตามที่มีให้” Booking.com อาจทำการเปลี่ยนแปลงบริการ แพลตฟอร์ม และเอกซ์ทราเน็ตได้ตลอดเวลา

6. การชดใช้ค่าเสียหายและความรับผิด

6.1 การชดใช้ค่าเสียหายร่วมกัน

6.1.1 คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะต้องรับผิดต่อและจะชดเชย ชดใช้ และทำให้คู่สัญญาอีกฝ่ายและบริษัทแอฟฟิลิเอต กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน ผู้แทน และผู้รับจ้างช่วง ไม่ต้องรับผิดชอบต่อและสำหรับความเสียหาย ความสูญเสีย ความรับผิด ภาระผูกพัน ค่าใช้จ่าย การเรียกร้องประเภทใดก็ตาม ดอกเบี้ย บทลงโทษ ค่าดำเนินการ ค่าปรับ ต้นทุนและค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย(รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงค่าทนายและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องอันสมเหตุสมผล) ที่ต้องชำระ ประสบ หรือได้รับตามจริงอันเนื่องมาจากกรณีต่อไปนี้:

(i) การละเมิดข้อตกลงโดยคู่สัญญาอีกฝ่าย

(ii) ความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงและการจงใจประพฤติมิชอบ และ

(iii) การเรียกร้องใด ๆ จากบุคคลที่สามเนื่องจาก (การกล่าวหาว่า) คู่สัญญาอีกฝ่ายละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลที่สาม

6.1.2 คู่สัญญาแต่ละฝ่ายมีภาระผูกพันในการใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงและลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

6.1.3 ในกรณีที่ Booking.com ชดใช้ค่าเสียหายแก่ที่พัก Booking.com อาจเข้ารับช่วงสิทธิในข้อเรียกร้องและรับข้อต่อสู้โดยมีการหารือและตกลงกับที่พัก และโดยเคารพผลประโยชน์ของคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายอย่างเหมาะสม คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะต้องไม่ยอมรับ ยื่นเอกสาร ยินยอมให้มีการเข้าสู่การพิจารณาคดี หรือเข้าสู่การประนีประนอมยอมความหรือการระงับข้อพิพาทใด ๆ โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าจากอีกฝ่าย ทั้งนี้ ความยินยอมดังกล่าวจะต้องไม่ถูกระงับ ทำให้ล่าช้า หรือมีเงื่อนไขโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร

6.1.4 คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะต้องแจ้งให้คู่สัญญาอีกฝ่ายทราบโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้หลังจากที่ทราบถึงข้อเรียกร้องของบุคคลที่สาม ในกรณีที่มีข้อเรียกร้องจากบุคคลที่สาม (รวมถึงการกระทำ การเรียกร้อง การดำเนินคดี การทวงถาม การตั้งข้อกล่าวหา ประเด็นฟ้อง หรือการดำเนินคดีอื่น ๆ ทั้งหมดทางแพ่ง ทางอาญา ทางปกครอง หรือเชิงสืบสวน ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสูญเสียที่กล่าวอ้างโดยบุคคลที่สามและยืนกรานต่อคู่สัญญาฝ่ายหนึ่ง) คู่สัญญาจะต้องกระทำการโดยสุจริตและใช้ความพยายามตามสมควรในเชิงพาณิชย์เพื่อหารือ ให้ความร่วมมือ และช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการแก้ต่าง และ/หรือการระงับข้อพิพาทจากข้อเรียกร้อง

6.1.5 คู่สัญญาแต่ละฝ่ายรับทราบว่าการเยียวยาตามกฎหมายอาจไม่เพียงพอต่อการคุ้มครองคู่สัญญาอีกฝ่ายจากการฝ่าฝืนข้อตกลงฉบับนี้ คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะมีสิทธิได้รับคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวและกระทำการเฉพาะโดยไม่กระทบต่อสิทธิและการเยียวยาอื่นใดที่มีให้คู่สัญญาอีกฝ่าย

6.2 การชดใช้ค่าเสียหายโดยที่พัก

6.2.1 ภายใต้ขอบเขตสูงสุดที่สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมาย ที่พักจะต้องดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อชดเชย ชดใช้ และทำให้ Booking.com และบริษัทแอฟฟิลิเอต กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน ผู้แทน และผู้รับจ้างช่วง ไม่ต้องรับผิดต่อและสำหรับความเสียหาย ความสูญเสีย ความรับผิด ภาระผูกพัน ต้นทุน ข้อเรียกร้องประเภทใดก็ตาม ดอกเบี้ย บทลงโทษ ค่าดำเนินการ ค่าปรับ ต้นทุนและค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย (รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงค่าทนายและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องอันสมเหตุสมผล) ซึ่งเกี่ยวข้องกับกรณีต่อไปนี้:

(i) ข้อเรียกร้องทั้งหมดของลูกค้าเกี่ยวกับข้อมูลที่พักที่ไม่ถูกต้อง ผิดพลาด หรือทำให้เข้าใจผิด

(ii) ข้อเรียกร้องทั้งหมดของลูกค้าเกี่ยวกับหรือที่เกี่ยวข้องกับการเข้าพักในที่พัก การจองเกินจำนวนจัดสรร การจองที่ถูกยกเลิก (ทั้งหมดหรือบางส่วน) การจองที่ผิดพลาดหรือการชำระคืน การคืนเงินหรือการปฏิเสธการชำระเงินสำหรับราคาห้องพัก

(iii) ข้อเรียกร้องของลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับนโยบายเราเทียบราคาให้เท่าเทียมในกรณีที่ Booking.com มีสิทธิได้รับความเท่าเทียมด้านราคาและเงื่อนไข และในกรณีที่ลูกค้าถูกเรียกชำระเกินราคาที่ใช้ในการจองซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่า ข้อ 6.2.1 (iii) นี้จะไม่ใช้ในกรณีที่ที่พัก (ซึ่งหมายถึง ตัวที่พัก) ตั้งอยู่ในประเทศที่ไม่สามารถขอความเท่าเทียมในการขาย ข้อ 6.2.1 (iii) นี้จะไม่ใช้และจะถูกลบและแทนที่ด้วยข้อความอื่นในภาคผนวก 5 ในกรณีที่ที่พัก (ซึ่งหมายถึง ตัวที่พัก) ตั้งอยู่ในประเทศที่มีข้อจำกัดต่ำด้านความเท่าเทียมในการขาย

(iv) ข้อเรียกร้องทั้งหมดของลูกค้าที่เกี่ยวกับเงินและไม่เกี่ยวกับเงิน ซึ่งเกิดขึ้นตามหรือเกี่ยวข้องกับ (กฎหมายระดับชาติที่บังคับใช้ เกี่ยวข้องกับ หรือคล้ายกันในสาระสำคัญกับ) คำสั่งด้านแพ็กเกจการเดินทาง และภาระผูกพันที่ Booking.com มี (หรือเห็นสมควรที่จะมี) ตาม (กฎหมายระดับชาติที่บังคับใช้ เกี่ยวข้อง หรือคล้ายกันในสาระสำคัญกับ) คำสั่งด้านแพ็กเกจการเดินทาง และ

(v) ข้อเรียกร้องอื่น ๆ ทั้งหมดของลูกค้า ซึ่งทั้งหมดหรือบางส่วนนั้นเนื่องมาจากที่พัก (รวมถึงกรรมการ พนักงาน ตัวแทน ผู้รับจ้างช่วง ตัวแทน และสถานที่)

(vi) ข้อเรียกร้องทั้งหมด รวมถึงต้นทุน ค่าใช้จ่าย ดอกเบี้ย ค่าปรับ และความรับผิดอื่น ๆ ที่มีขึ้นต่อ กล่าวอ้างโดย หรือเกิดกับ Booking.com ซึ่งเกี่ยวข้องกับหรือเป็นผลมาจากกรณีต่อไปนี้:

(a) ความล้มเหลวหรือความประมาทเลินเล่อของที่พักในการจดทะเบียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ/หรือให้ข้อมูลตามที่กฎหมายกำหนด หรือชำระ เรียกเก็บ ส่ง หรือหักภาษีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเรียกเก็บหรือมาจากการบริการหรือการเรียกชำระอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงฉบับนี้ในเขตอำนาจศาลที่เกี่ยวข้อง ในเวลาที่เหมาะสม อย่างถูกต้องและแม่นยำ หรือ

(b) ความรับผิดและข้อเรียกร้องด้านภาษีที่มีขึ้นต่อ Booking.com สำหรับภาษีซึ่งที่พักต้องเป็นผู้รับผิดชอบหรือรับผิด หรือในกรณีที่ภาระผูกพันในการชำระ เรียกเก็บ หัก และส่งภาษีถูกกำหนดโดยกฎหมายให้ Booking.com รับผิดชอบในนามของหรือแทนที่พัก

(vii) ข้อเรียกร้องทั้งหมดเกี่ยวกับการเงินและไม่เกี่ยวกับการเงิน และการตรวจสอบโดยบุคคลที่สามและหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรับรอง การรับประกัน และภาระผูกพันของที่พักตามข้อตกลงฉบับนี้

(viii) ข้อเรียกร้องหรือข้อร้องเรียนทั้งหมดเกี่ยวกับการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้โดย Booking.com ในขอบเขตที่การไม่ปฏิบัติตามนั้นเกิดจากที่พัก ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน (ซึ่งในกรณีนี้ที่พักจะรับผิดชอบในการชำระค่าเสียหายหรือค่าปรับที่เกี่ยวข้องในสัดส่วนที่เหมาะสมแก่ Booking.com)

6.3 ข้อจำกัดของความรับผิด

6.3.1 คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะไม่รับผิดต่อคู่สัญญาอีกฝ่ายอันเนื่องมาจากความเสียหายหรือการสูญเสียโดยอ้อม พิเศษ จากการลงโทษ โดยบังเอิญ หรือที่เป็นผลสืบเนื่องใด ๆ รวมถึงการสูญเสียการผลิต การสูญเสียกำไร การสูญเสียรายได้ การสูญเสียสัญญา การสูญเสียหรือความเสียหายต่อค่าความนิยมหรือชื่อเสียง การสูญเสียข้อเรียกร้อง หรือการสูญเสียและ/หรือความเสียหายพิเศษ โดยอ้อม หรือสืบเนื่อง ไม่ว่าความเสียหายดังกล่าวจะ (ถูกกล่าวหาว่า) เป็นผลจากการละเมิดสัญญา การละเมิด หรืออื่นใด แม้ว่าจะมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าว่าอาจจะเกิดความเสียหายหรือการสูญเสียดังกล่าวแล้วก็ตาม ทั้งนี้ มีการสละสิทธิและปฏิเสธความเสียหายและการสูญเสียดังกล่าวทั้งหมดไว้อย่างชัดแจ้ง

6.3.2 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอย่างอื่นในข้อตกลงฉบับนี้ ยอดรวมความรับผิดสูงสุดของคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งต่อคู่สัญญาอีกฝ่ายสำหรับข้อเรียกร้องทั้งหมดที่มีขึ้นต่อคู่สัญญาในปีที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงฉบับนี้จะต้องไม่เกินยอดที่สูงกว่าของยอดต่อไปนี้:

(i) คอมมิชชั่นรวมที่คู่สัญญานั้นได้รับหรือชำระให้แก่คู่สัญญาอีกฝ่ายในปีก่อนหน้า และ

(ii) EUR 100,000

ข้อ 6.3.2 นี้ไม่จำกัดความรับผิดของคู่สัญญาในส่วนที่เกี่ยวกับการละเมิด การฉ้อโกง การติดสินบนและการทุจริต การจงใจประพฤติไม่เหมาะสมหรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง หรือที่เกี่ยวข้องกับการชดใช้ค่าเสียหายในส่วนที่เกี่ยวกับความรับผิดของบุคคลที่สามตามทีระบุไว้ในข้อ 6.1.1 (iii) และ 6.2

7. ระยะเวลา การยุติ และการระงับ

7.1 เว้นแต่จะตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น ข้อตกลงฉบับนี้จะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ที่พักยอมรับ และจะมีผลต่อเนื่องโดยไม่มีกำหนดระยะเวลา ที่พักอาจบอกเลิกข้อตกลงฉบับนี้ได้ทุกเมื่อและด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม โดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรไปยัง Booking.com และต้องมีระยะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 15 วัน

7.2 คู่สัญญาแต่ละฝ่ายสามารถระงับหรือบอกเลิกข้อตกลงฉบับนี้โดยจะมีผลทันทีในกรณีดังต่อไปนี้:

(i) เป็นภาระผูกพันตามกฎหมายหรือข้อบังคับ

(ii) เป็นเหตุผลที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ภายใต้กฎหมายที่บังคับใช้

(iii) มีการละเมิดข้อตกลงซ้ำโดยคู่สัญญาอีกฝ่าย หรือ

(iv) มีการละเมิดอันเป็นสาระสำคัญโดยคู่สัญญาอีกฝ่าย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงกรณีของเนื้อหาที่ผิดกฎหมายหรือไม่เหมาะสม การฉ้อโกง หรือการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดการแจ้งเตือนเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยภายใต้ภาคผนวก 2

7.3 โดยไม่ส่งผลกระทบต่อข้อ 7.1 และ 7.2 เมื่อมีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว (ซึ่งรวมถึงคำแถลงเหตุผล) Booking.com อาจจำกัดหรือระงับภาระผูกพัน สัญญา และการดำเนินการทั้งหมดหรือบางส่วนตามข้อตกลงฉบับนี้โดยจะมีผลทันที และ/หรืออาจบอกเลิกข้อตกลงฉบับนี้ และ/หรือปิดแพลตฟอร์มสำหรับที่พักหลังจากระยะแจ้งล่วงหน้า 30 วันตามปฏิทิน ในกรณีหรือสถานการณ์ใด ๆ (ที่คาดการณ์หรือสงสัยโดยมีเหตุอันสมควร) ดังต่อไปนี้:

(i) ที่พักละเมิดข้อกำหนดใด ๆ ของข้อตกลง

(ii) (การยื่นหรือส่งคำขอ) การล้มละลาย การไม่สามารถชำระหนี้ หรือการระงับการชำระเงิน หรือการกระทำหรือกรณีที่คล้ายคลึงกันของที่พัก

(iii) ไม่ชำระใบแจ้งหนี้ ใบเพิ่มหนี้ หรือยอดที่ต้องชำระในวันที่กำหนดแก่ Booking.com

(iv) พยายามกระทำการโดยไม่สุจริตเพื่อหลีกเลี่ยงการชำระคอมมิชชั่นและ/หรือลดคอมมิชชั่น

(v) ที่พักให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ล้าสมัย ไม่สมบูรณ์ ทำให้เข้าใจผิด หรือฉ้อโกง ซึ่งรวมถึงการโพสต์ข้อมูลที่พักลักษณะดังกล่าวบนเอกซ์ทราเน็ต หรือผ่าน Connectivity Provider

(vi) ไม่ยอมรับการจองในราคาและ/หรือเงื่อนไขตามที่แสดงไว้ในการจอง หรือไม่ยึดตามราคาและ/หรือเงื่อนไขการจองตามที่ตกลงไว้

(vii) ที่พักเรียกชำระเงินจากลูกค้าเกินยอดที่ระบุ

(viii) ที่พักนำข้อมูลบัตรเครดิตหรือข้อมูลอื่นของลูกค้าไปใช้อย่างไม่สมควร (เช่น เรียกเก็บเงินจากบัตรเครดิตของลูกค้าก่อนเช็คอินโดยไม่ได้รับความยินยอมล่วงหน้าจากลูกค้า) หรือในกรณีที่มีการละเมิดข้อมูล

(ix) มีการร้องเรียนอย่างร้ายแรงจากลูกค้า 1 คนหรือมากกว่านั้น หรือร้องเรียนโดยบุคคลที่สาม

(x) ได้รับคะแนนหรือรีวิวระดับแย่ซ้ำ ๆ

(xi) ที่พักหาทางจัดดำเนินการหรือพยายามจัดดำเนินการกับการจองหรือการทำงานของแพลตฟอร์ม ทั้งทางตรงหรือทางอ้อม (เช่น จัดดำเนินการรีวิวจากผู้เข้าพัก)

(xii) ปัญหาด้านความปลอดภัย ความมั่นคง ความเป็นส่วนตัว หรือด้านสุขภาพ ซึ่งเกี่ยวข้องกับที่พักหรือสิ่งอำนวยความสะดวกของที่พัก (เมื่อ Booking.com ร้องขอ ที่พักจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเองในการส่งใบอนุญาต สิทธิการใช้งาน และหนังสือรับรองที่เกี่ยวข้อง หรือคำแถลงที่ออกโดยผู้เชี่ยวชาญอิสระ ซึ่งนำมาใช้เป็นหลักฐานและสนับสนุนการปฏิบัติตามกฎหมายและบทบัญญัติ (ด้านความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และสุขภาพ) ที่มีผลบังคับใช้ให้แก่ Booking.com)

(xiii) ที่พักหรือคู่สัญญาแอฟฟิลิเอตใด ๆ บอกเลิกสัญญากับบริษัทแอฟฟิลิเอตของ Booking.com โดยปราศจากเหตุผลที่ดีที่พิสูจน์ได้ และ/หรือเพื่อความสะดวก

(xiv) บริษัทแอฟฟิลิเอตใดก็ตามของ Booking.com มีสิทธิตามกฎหมายในการยกเลิกสัญญากับที่พักโดยมีเหตุผลที่ดี (รวมถึงคู่สัญญาฝ่ายที่ถือครองหรือควบคุมที่พักไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรืออยู่ใต้การถือครองหรือควบคุมโดยที่พักไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม)

(xv) การละเมิด รวมถึงการกระทำหรือเหตุผิดนัดหรือการไม่ปฏิบัติตามภาระผูกพันใด ๆ ในข้อตกลงอื่นใดระหว่างที่พักกับ Booking.com หรือบริษัทแอฟฟิลิเอตของ Booking.com

(xvi) การดำเนินการโดยที่พักซึ่งไม่สอดคล้องกับรูปแบบธุรกิจระดับโลก เทคโนโลยี หรือนโยบายของ Booking.com

(xvii) Booking.com เชื่ออย่างสมเหตุสมผลว่าการกระทำนั้นมีความจำเป็นเพื่อปกป้องความปลอดภัยส่วนบุคคลหรือทรัพย์สินของ Booking.com ลูกค้า หรือบุคคลที่สาม และเพื่อป้องกันพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่เป็นมืออาชีพ ทั้งทางกายภาพและ/หรือไม่ใช่ทางกายภาพ และ/หรือป้องกันการกระทำโดยไม่สุจริต การฉ้อโกง หรือกิจกรรมอื่นที่ยอมรับไม่ได้

(xviii) Booking.com เชื่ออย่างสมเหตุสมผลว่าที่พักละเมิดสิ่งที่แสดงไว้ในข้อ 5.1 (vi), 5.1 (vii), 5.2 (iv), 11.5 และ 11.6 หรือภาระผูกพันที่ระบุไว้ในข้อ 11.1 ถึง 11.4 หรือ

(xix) ที่พักไม่ให้ข้อมูล เอกสาร หรือหลักฐานอื่นๆ ที่ถูกต้อง ครบถ้วน และอัปเดตล่าสุดแล้วแก่ Booking.com (ภายในกำหนดเวลา) ตามที่ Booking.com ร้องขอตามสมควรเป็นครั้งคราวอันเกี่ยวข้องกับกระบวนการตรวจสอบที่ต้องดำเนินการ หรือเพื่อให้มั่นใจว่า Booking.com ปฏิบัติตามกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ หรือเพื่อจุดประสงค์อื่น ๆ

7.4 การที่ Booking.com ประกาศหรือสื่อสารเรื่อง “การปิดตัว” (หรือคำอื่นที่คล้ายคลึงกัน) ของที่พักบนเว็บไซต์จะหมายถึงการยุติข้อตกลงฉบับนี้ หลังจากการยุติหรือระงับข้อตกลงฉบับนี้แล้ว ที่พักจะต้องจัดเตรียมห้องพักให้กับลูกค้าที่จองไว้ก่อนการยุติ และจะต้องชำระค่าคอมมิชชั่นทั้งหมด (รวมถึงต้นทุน ค่าใช้จ่าย และดอกเบี้ย (หากมี)) ที่ต้องชำระสำหรับการจองเหล่านั้นตามข้อกำหนดของข้อตกลงฉบับนี้ เมื่อมีการยุติหรือระงับข้อตกลงฉบับนี้ แม้ว่า Booking.com จะมีสิทธิที่จะถอดถอนที่พักออกจากแพลตฟอร์ม (เป็นการถาวร) ได้ แต่ Booking.com อาจเก็บและรักษาหน้าที่พักไว้บนแพลตฟอร์ม แต่ปิดจำนวนห้องว่างที่เปิดให้จอง (สถานะ: “ถูกปิดการดำเนินการ”) รอการชำระเงินเต็มจำนวนและการชำระเงินครั้งสุดท้ายของคอมมิชชั่นที่ครบกำหนดและค้างชำระ (รวมถึงคอมมิชชั่น)

7.5 เมื่อข้อตกลงสิ้นสุดลง สิทธิและการเยียวยาของคู่สัญญาแต่ละฝ่ายในส่วนที่เกี่ยวกับการชดใช้ค่าเสียหายหรือการละเมิดโดยคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งจะยังคงมีผลสืบเนื่องต่อไป ข้อ 2.4, 6, 7.6, 8 ถึง 12 (และข้ออื่น ๆ ที่ยังคงมีผลตามปกติแม้ว่าจะมีการยุติ) ทั้งหมดจะยังคงมีผลสืบเนื่องต่อไปหลังจากการยุติ

7.6 หากมีการเปลี่ยนกรรมสิทธิ์หรือผู้ดำเนินการที่พัก (ซึ่งหมายถึง ตัวที่พัก) รวมถึงการมอบหมาย การโอน หรือการสับเปลี่ยนข้อตกลง ที่พักยอมรับว่าเจ้าของหรือผู้ดำเนินการใหม่อาจใช้ข้อมูลที่พัก ซึ่งรวมถึงรีวิวจากผู้เข้าพักซึ่งที่พักมีอยู่หรือใช้งานก่อนการเปลี่ยนกรรมสิทธิ์ และจะได้รับสิทธิในการดำเนินการ (ด้านการเงินและการประกอบการ) การจัดการ และข้อมูล (ลูกค้า) ที่เกี่ยวข้อง ที่พักจะต้องรับผิดชอบและรับผิดต่อภาระผูกพัน ข้อเรียกร้อง และความรับผิดทั้งหมดที่เกี่ยวข้องหรือเกิดขึ้นในระหว่างช่วงเวลาก่อนการเปลี่ยนกรรมสิทธิ์หรือผู้ดำเนินการ ไม่ว่าในกรณีใด ๆ

8. สมุดบัญชีและบันทึก

8.1 ระบบ สมุดบัญชี และบันทึกของ Booking.com (รวมถึงระบบการเงิน เอกซ์ทราเน็ต เอกสารสรุปการจองออนไลน์ โทรสาร และ/หรืออีเมล) จะถือว่าเป็นพยานหลักฐานอันเป็นที่ยุติในเรื่องของการมีอยู่และการรับการจองโดยที่พัก และยอดคอมมิชชั่น ความเสียหายและค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระให้แก่ Booking.com ภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ เว้นแต่ที่พักจะสามารถแสดงพยานหลักฐานหักล้างที่สมเหตุสมผลและน่าเชื่อถือได้

8.2 ที่พักจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่และให้ข้อมูลที่ Booking.com ร้องขอตามสมควรในส่วนที่เกี่ยวกับการระบุตัวตนของเจ้าของ (ผู้ได้รับประโยชน์ในทอดสุดท้าย) ผู้จัดการ และ/หรือผู้ควบคุมที่พัก โปรไฟล์ความเสี่ยงของที่พัก และการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะ กระบวนการ และวัตถุประสงค์อื่น ๆ ตามที่ Booking.com ได้แจ้งกับที่พักเป็นครั้งคราวตามสมควร เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่นในคำขอของ Booking.com ข้อมูลดังกล่าวจะต้องจัดเตรียมให้ภายใน 15 วันนับจากวันที่ Booking.com ร้องขอ

8.3 Booking.com อาจดำเนินการ และ/หรือสั่งให้บุคคลที่สามดำเนินการตรวจตราหรือตรวจสอบบันทึกของที่พัก (รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลหรือข้อมูลด้านความปลอดภัย) ในขอบเขตที่จำเป็นตามสมควรเพื่อปฏิบัติตามภาระผูกพันทางกฎหมายหรือการรายงานของ Booking.com และในกรณีที่ Booking.com มีเหตุผลให้สงสัยว่าที่พักไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง ที่พัก และลูกจ้าง ตัวแทน และผู้แทนของที่พักจะต้องให้ความร่วมมือกับ Booking.com และบุคคลที่สามดังกล่าวอย่างเต็มที่ ในการจัดให้มีการเข้าถึงสมุดบัญชี บันทึก สถานที่ บุคลากร และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และจัดทำสำเนาให้พร้อมใช้งานตามความจำเป็น

8.4 Booking.com จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการตรวจตราหรือการตรวจสอบใด ๆ เว้นแต่ที่พักได้เผยถึงการละเมิดบทบัญญัติของข้อตกลงฉบับนี้ ในกรณีนี้ ที่พักจะเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่ายโดยไม่กระทบต่อสิทธิและการเยียวยาอื่น ๆ ของ Booking.com ซึ่งเกี่ยวข้องกับการละเมิดดังกล่าว

9. การรักษาความลับและการแบ่งปันข้อมูล

9.1 คู่สัญญาเข้าใจและยอมรับว่าตามข้อตกลงฉบับนี้ คู่สัญญาแต่ละฝ่ายอาจเข้าถึงหรือรับรู้ข้อมูลที่เป็นความลับของอีกฝ่ายไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม (“ข้อมูลที่เป็นความลับ”) ข้อมูลที่เป็นความลับนั้นรวมถึง ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลส่วนบุคคล ปริมาณธุรกรรม แผนการตลาดและธุรกิจ ข้อมูลธุรกิจ ข้อมูลการเงิน ข้อมูลเทคนิค ข้อมูลการประกอบการ และข้อมูลอื่นที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ ซึ่งคู่สัญญาฝ่ายที่เปิดเผยกำหนดให้เป็นข้อมูลส่วนตัวหรือความลับ หรือคู่สัญญาฝ่ายที่ได้ไปนั้นทราบด้วยเหตุผลที่สมควรว่าให้ปฏิบัติกับข้อมูลดังกล่าวว่าเป็นส่วนตัวและความลับ

9.2 เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่นในข้อ 9 นี้ คู่สัญญาแต่ละฝ่ายยอมรับว่า:

(i) ข้อมูลที่เป็นความลับทั้งหมดจะยังคงเป็นทรัพย์สินของคู่สัญญาฝ่ายที่เปิดเผยแต่เพียงผู้เดียว คู่สัญญาฝ่ายที่ได้ไปจะไม่ใช้ข้อมูลที่เป็นความลับเพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ ยกเว้นเพื่อให้เป็นไปตามภาระผูกพันภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้

(ii) คู่สัญญาจะต้องรักษาและใช้ระเบียบวิธีอันรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่าพนักงาน เจ้าหน้าที่ ผู้แทน คู่สัญญา และตัวแทนของตน (“ผู้ได้รับอนุญาต” จะเก็บรักษาความลับของข้อมูลที่เป็นความลับ

(iii) คู่สัญญาจะต้องเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับแก่ผู้ได้รับอนุญาตเฉพาะเท่าที่จำเป็นเพื่อให้เป็นไปตามภาระผูกพันภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้

(iv) คู่สัญญาจะต้องไม่และจะต้องใช้ระเบียบวิธีอันรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ได้รับอนุญาตจะไม่คัดลอก เผยแพร่ เปิดเผยต่อผู้อื่น หรือใช้ข้อมูลที่เป็นความลับ (นอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาตภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้) และ

(v) คู่สัญญาจะคืนหรือทำลายสำเนาที่พิมพ์ลงกระดาษและสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดของข้อมูลที่เป็นความลับเมื่อคู่สัญญาอีกฝ่ายร้องขอเป็นลายลักษณ์อักษร

9.3 อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการกล่าวไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ข้อมูลที่เป็นความลับจะไม่รวมถึงข้อมูลใด ๆ ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้:

(i) เป็นหรือกลายเป็นข้อมูลสาธารณะ หรือสามารถเข้าถึงได้ เนื่องจากการดำเนินการหรือการละเว้นของฝ่ายที่ได้รับข้อมูล

(ii) ครอบครองโดยฝ่ายที่ได้รับข้อมูลก่อนหน้าวันที่ระบุไว้ของข้อตกลงฉบับนี้

(iii) มีการเปิดเผยต่อฝ่ายที่ได้รับข้อมูลโดยบุคคลที่สามซึ่งไม่มีภาระผูกพันในการรักษาความลับที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลที่เป็นความลับ หรือ

(iv) ต้องเปิดเผยตามกฎหมาย คำสั่งศาล หมายศาล หรือหน่วยงานของรัฐ

9.4 Booking.com อาจเปิดเผยข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับที่พัก และ/หรือข้อตกลงฉบับนี้กับบริษัทแอฟฟิลิเอตของ Booking.com โดยไม่คำนึงถึงข้อ 9.1 ถึง 9.3 ข้อมูลดังกล่าวอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลที่เป็นความลับ และข้อมูลเกี่ยวกับที่พักในด้านการดำเนินการภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้และการปฏิบัติตามนโยบาย Booking.com จะทำให้แน่ใจว่าบริษัทแอฟฟิลิเอตของ Booking.com ที่ได้รับข้อมูลที่เป็นความลับจะผูกมัดด้วยภาระผูกพันในการรักษาความลับเช่นเดียวกัน

10. การระงับข้อพิพาท

10.1 กฎหมายที่บังคับใช้และศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดี

10.1.1 ข้อตกลงฉบับนี้จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลและการตีความตามกฎหมายของประเทศเนเธอร์แลนด์เท่านั้น เว้นแต่จะมีการระบุไว้เป็นอย่างอื่นในข้อตกลงฉบับนี้ ข้อพิพาทใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับข้อตกลงฉบับนี้จะต้องยื่นต่อและจัดการโดยศาลที่มีอำนาจในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์เท่านั้น

10.2 ระบบจัดการการร้องเรียน

10.2.1 Booking.com มีระบบจัดการการร้องเรียนให้แก่ที่พักทั้งหมด ที่พักอาจส่งการร้องเรียนผ่านศูนย์แก้ไขข้อร้องเรียนและ/หรือติดต่อตัวแทนที่ดูแลแอคเคาท์ของที่พักโดยเฉพาะ (ถ้ามี) ศูนย์แก้ไขข้อร้องเรียนสามารถเข้าถึงได้ผ่านทาง Partner Hub และแพลตฟอร์ม Booking.com

10.2.2 Booking.com จะยืนยันการได้รับการร้องเรียนและจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการจัดการการร้องเรียน โดยให้ข้อมูลผ่านเอกซ์ทราเน็ตหรือทางอีเมลภายใน 1 วันทำการนับจากที่พักส่งการร้องเรียน

10.2.3 Booking.com จะให้ข้อมูลอัปเดตเป็นประจำเกี่ยวกับความคืบหน้าในการจัดการการร้องเรียน โดยให้ตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตและตามสิทธิในการรักษาความลับของบุคคลที่สาม หากจำเป็น Booking.com จะติดต่อที่พักเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมและประเมินว่าจะสามารถแก้ไขเรื่องดังกล่าวได้หรือไม่ ที่พักสามารถถอนการร้องเรียนของตนเองได้ทุกเมื่อ ทั้งนี้ ภายใน 5 วันนับจากที่มีการส่งการร้องเรียน Booking.com จะแจ้งให้ที่พักทราบถึงผลตัดสินในการตอบสนองต่อการร้องเรียน หรือแจ้งข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับกระบวนการจัดการการร้องเรียน

10.3 การไกล่เกลี่ย

10.3.1 คู่สัญญาจะพยายามแก้ไขความขัดแย้งและข้อพิพาทผ่านระบบจัดการการร้องเรียนภายในของ Booking.com ที่ระบุไว้ในข้อ 10.2 เนื่องจากวิธีนี้เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาที่รวดเร็วและคุ้มค่าที่สุดสำหรับคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย

10.3.2 คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายอาจใช้วิธีไกล่เกลี่ยต่อ Ms. Scheepbouwer หรือ Ms. Van Thiel-Wortmann แห่ง Reuling Schutte ซึ่งมีข้อมูลติดต่ออยู่บนแพลตฟอร์ม หรือผู้ไกล่เกลี่ยอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานของผู้ไกล่เกลี่ยเหล่านี้และได้รับการแนะนำโดยผู้ไกล่เกลี่ยเหล่านี้เป็นครั้งคราว

10.3.3 การไกล่เกลี่ยจะกระทำการเป็นภาษาอังกฤษ และจะดำเนินการจากระยะไกลด้วยการใช้เทคโนโลยีการสื่อสาร คู่สัญญาจะชำระค่าใช้จ่ายฝ่ายละ 50% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการไกล่เกลี่ย เว้นแต่ผู้ไกล่เกลี่ยจะเสนอให้มีการจัดสรรค่าใช้จ่ายที่ต่างออกไป และคู่สัญญายอมรับ

10.3.4 ผู้ไกล่เกลี่ยจะเตรียมข้อตกลงการไกล่เกลี่ยเมื่อเริ่มการไกล่เกลี่ย และคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะต้องลงนามก่อนจึงจะเริ่มกระบวนการไกล่เกลี่ยได้ การเข้าร่วมการไกล่เกลี่ยเป็นไปด้วยความสมัครใจ หากคู่สัญญาตกลงที่จะเข้าร่วมการไกล่เกลี่ย ก็จะต้องเข้าร่วมโดยสุจริตตลอดกระบวนการ

11. การปฏิบัติตาม

11.1 ที่พักจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานและหลักการที่ระบุไว้ในข้อตกลงฉบับนี้และในนโยบาย และจะเข้าร่วมการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องตามที่ Booking.com ร้องขอตามสมควร

11.2 ในส่วนที่เกี่ยวกับข้อกำหนดเหล่านี้ และ/หรือข้อตกลงฉบับนี้ คู่สัญญาทั้งสองฝ่าย (รวมถึงลูกจ้าง กรรมการ พนักงาน ตัวแทน และผู้แทนอื่นใด) จะไม่ดำเนินการดังต่อไปนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม:

(i) เสนอ สัญญา หรือมอบให้แก่บุคคลที่สามใด ๆ (รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐ หรือเจ้าหน้าที่ ตัวแทน หรือผู้สมัครของพรรคการเมือง) แสวงหาหรือรับของขวัญ การชำระเงิน รางวัล ค่าตอบแทน หรือผลประโยชน์ประเภทใดก็ตาม ไม่ว่าสำหรับตนเองหรือสำหรับบุคคลอื่น ซึ่งอาจทำให้ตีความได้ว่าเป็นการติดสินบนหรือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือทุจริต

(ii) กระทำความผิด (หรืออำนวยความสะดวก ช่วยเหลือ สนับสนุน ให้คำปรึกษา หรือจัดหาการกระทำความผิด) จากการโกงรายได้แผ่นดิน หรือมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างรู้เท่าทันหรือดำเนินการโดยมีเจตนาเพื่อหนีภาษีโดยทุจริต

(iii) มีส่วนร่วมในกิจกรรมใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความผิดภายใต้กฎหมายที่บังคับใช้ซึ่งห้ามมิให้มีการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและ/หรือการจัดหาเงินทุนสำหรับการก่อการร้าย หรือ

(iv) มีการดำเนินการใด ๆ ที่จะละเมิด (และ/หรือ (ในกรณีของที่พัก) จะทำให้ Booking.com ละเมิด) ข้อจำกัดของมาตรการลงโทษที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อจำกัดที่กำหนดโดยสหประชาชาติ สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และดินแดนอื่นใดที่มีเขตอำนาจเหนือคู่สัญญา

11.3 คู่สัญญาแต่ละฝ่าย (รวมถึงลูกจ้าง กรรมการ พนักงาน ตัวแทน และผู้แทนอื่น ๆ) จะดำเนินการดังต่อไปนี้:

(i) ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านอาชญากรรมทางการเงิน

(ii) วางและรักษานโยบายและกระบวนการของตนเอง เพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับข้อกำหนดด้านอาชญากรรมทางการเงิน อีกทั้งจะบังคับใช้นโยบายและกระบวนการดังกล่าวตามความเหมาะสม และ

(iii) จัดให้มีการฝึกอบรมที่เหมาะสมแก่บุคลากรในการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านอาชญากรรมทางการเงิน นโยบาย และกระบวนการ

11.4 ที่พักจะแจ้ง Booking.com ทันทีในกรณีที่มีการละเมิดข้อ 11 นี้ ไม่ว่าจะโดยที่พัก หรือโดยลูกจ้าง กรรมการ พนักงาน ตัวแทน หรือผู้แทนอื่น ๆ ทั้งที่เกิดขึ้นจริงหรือต้องสงสัย

11.5 เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านอาชญากรรมทางการเงิน Booking.com จะให้บริการกับ และดำเนินการ อำนวยความสะดวก ชำระเงินไปยัง และ/หรือรับการชำระเงินจากบัญชีธนาคาร (“บัญชีธนาคาร”) ซึ่งที่พักเป็นเจ้าของเท่านั้น เว้นแต่จะตกลงกันเป็นอย่างอื่นอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร และเป็นไปตามกรณีใดกรณีหนึ่งต่อไปนี้:

(i) มีความเกี่ยวข้องกับเขตอำนาจศาลซึ่งที่พัก (หมายถึง องคภาวะตามกฎหมาย) ตั้งอยู่ และ/หรือมีสถานประกอบธุรกิจหลัก หรือ

(ii) ตั้งอยู่ในเขตอำนาจศาลที่เข้าร่วมในแผน Single Euro Payments Area (ตามที่อธิบายไว้ใน Directive 2007/64/EC (EU) ของสภายุโรปและของสภา)

11.6 ที่พักรับรองและรับประกันว่า (โดยไม่คำนึงถึงเขตอำนาจศาลของบัญชีธนาคาร):

(i) ที่พักยึดถือและปฏิบัติอย่างสอดคล้องกับใบอนุญาต สิทธิการใช้งาน ตลอดจนใบอนุญาต สิทธิการใช้งาน และการให้อำนาจอื่น ๆ จากภาครัฐทั้งหมด ที่จำเป็นสำหรับการทำ การจัดการให้ลุล่วง หรือการสานต่อการปฏิบัติงานหรือธุรกิจ (ซึ่งรวมถึงการเป็นเจ้าของและใช้งานบัญชีธนาคาร)

(ii) ที่พักเป็นเจ้าของบัญชีธนาคาร

(iii) การชำระเงินไปยังและการโอนจากบัญชีธนาคารไม่ได้มีผลประโยชน์ทับซ้อนกัน และเป็นไปตามกฎหมาย บทบัญญัติ ประมวลกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบข้อบังคับ และกฎที่บังคับใช้ทั้งหมด และไม่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย สนธิสัญญา ข้อบังคับ ประมวลกฎหมาย หรือบทบัญญัติที่บังคับใช้ใด ๆ ว่าด้วยการต่อต้านการฟอกเงิน การต่อต้านการทุจริต การต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย การต่อต้านการหนีภาษี หรือการต่อต้านอาชญากรรมทางการเงินอื่นใด และ

(iv) บัญชีธนาคารไม่ได้ใช้ (โดยทางตรงหรือทางอ้อม) เพื่อการฟอกเงิน การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย การหนีภาษี (หรือการอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้) การหลบเลี่ยงภาษี การละเมิดมาตรการลงโทษทางการเงิน อาชญากรรมทางการเงิน หรือกิจกรรมอื่นที่ผิดกฎหมาย

12. เบ็ดเตล็ด

12.1 คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายไม่สามารถมอบหมาย ถ่ายโอน และ/หรือประวิงสิทธิ และ/หรือภาระผูกพันใด ๆ ของตนเองภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ (นอกเหนือจากบริษัทแอฟฟิลิเอต Booking.com) โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากอีกฝ่าย การมอบหมาย การสับเปลี่ยน หรือการถ่ายโอนซึ่งกระทำโดยที่พักจะไม่ส่งผลให้ที่พักพ้นจากภาระผูกพันภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้

12.2 การแจ้งให้ทราบและการสื่อสารทั้งหมดต้องเป็นภาษาอังกฤษ โดยต้องทำอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรและส่งผ่านบริการกล่องข้อความในเอกซ์ทราเน็ต หรือทางโทรสาร อีเมล หรือบริการจัดส่งพัสดุภัณฑ์ทางอากาศแบบข้ามคืนที่ได้รับการยอมรับระดับชาติ โดยใช้ข้อมูลติดต่อตามที่คู่สัญญาแต่ละฝ่ายแจ้งไว้เป็นครั้งคราว

12.3 ข้อตกลงฉบับนี้ประกอบด้วยข้อตกลงและความเข้าใจทั้งหมดระหว่างคู่สัญญาในเรื่องที่เป็นสาระสำคัญ และมีผลแทนที่ข้อตกลง การตระเตรียม ข้อเสนอทั้งที่มีหรือไม่มีผลผูกมัด ภาระหน้าที่ หรือแถลงการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสาระสำคัญดังกล่าวและที่พัก ซึ่งมีการกำหนดไว้ก่อนหน้านี้ทั้งหมด

12.4 ในกรณีที่มีความขัดแย้งระหว่างข้อกำหนดเหล่านี้กับภาคผนวก จะต้องยึดภาคผนวกเป็นหลัก ในกรณีที่บทบัญญัติใด ๆ ของข้อตกลงฉบับนี้เป็นหรือกลายเป็นโมฆะ หรือไม่มีผลผูกมัด คู่สัญญาจะยังคงผูกมัดด้วยบทบัญญัติอื่นทั้งหมด และจะใช้บทบัญญัติที่มีผลตามกฎหมายและมีผลผูกมัด และมีผลคล้ายกันกับบทบัญญัติที่เป็นโมฆะหรือไม่มีผลผูกมัดมากที่สุด เพื่อแทนที่ (ส่วนสำคัญของ) บทบัญญัติที่เป็นโมฆะหรือไม่มีผลผูกมัด

12.5 ข้อตกลงฉบับนี้จะไม่ถือเป็นการกีดกันหรือจำกัดสิทธิของ Booking.com ในการนำหรือเริ่มต้นการดำเนินการหรือกระบวนการใด ๆ หรือในการแสวงหาคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวหรือการกระทำการ (เฉพาะ) ต่อหรือในศาลที่มีอำนาจใด ๆ และภายใต้กฎหมายของเขตอำนาจศาลซึ่งที่พักตั้งอยู่หรือจดทะเบียน ที่พักสละสิทธิในการอ้างเขตอำนาจศาลหรือกฎหมายที่บังคับใช้อื่นใดซึ่งที่พักอาจมีสิทธิ

12.6 ต้นฉบับภาษาอังกฤษของข้อกำหนดนี้ได้รับการแปลเป็นภาษาอื่น ๆ กรณีที่มีความไม่สอดคล้องกันระหว่างข้อกำหนดฉบับภาษาอังกฤษกับฉบับแปล ให้ยึดถือฉบับภาษาอังกฤษเป็นหลัก ฉบับภาษาอังกฤษจะใช้ในกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งรวมถึงกลไกการร้องเรียนและการไกล่เกลี่ย ฉบับภาษาอังกฤษจะมีให้บนเว็บไซต์ต่อไปนี้ และจะมีการส่งไปให้ที่พักเมื่อมีการร้องขอเป็นลายลักษณ์อักษร:

https://admin.booking.com/hotelreg/terms-and-conditions.html?cc1=nl&lang=en

12.7 ข้อตกลงฉบับนี้อาจมีการนำเข้าสู่ระบบออนไลน์หรือใช้คู่ฉบับแยกต่างหากเป็นสำเนาที่พิมพ์ลงกระดาษ หรือโดยสำเนา pdf หรือสำเนาโทรสาร ซึ่งแต่ละฉบับจะถือเป็นต้นฉบับ และจะมีผลตามกฎหมายและมีผลผูกมัด เมื่อที่พักลงทะเบียนและเข้าสู่โปรแกรมคู่ค้าของ Booking.com ในฐานะที่พักคู่ค้า จะถือว่าที่พักตกลง รับทราบ และยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขของข้อตกลงฉบับนี้ ข้อตกลงฉบับนี้ไม่จำเป็นต้องมีตราประทับหรือการประทับตราใด ๆ เพื่อให้มีผลตามกฎหมาย มีผลผูกมัด และสามารถบังคับใช้ได้

12.8 ที่พักตกลงที่จะชดใช้และชดเชยให้แก่ Booking.com B.V. เต็มจำนวนสำหรับความเสียหาย การสูญเสีย ข้อเรียกร้อง การลงโทษ ค่าปรับ ต้นทุน และค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ Booking.com B.V. (หรือบริษัทแอฟฟิลิเอต กรรมการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน ตัวแทน ผู้แทน และผู้รับจ้างช่วง) ได้ประสบ ต้องชำระ หรือเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้อง (ซึ่งข่มขู่หรือกล่าวหา) หรือการลงโทษจากรัฐบาล หน่วยงาน องค์กร บริษัท กลุ่ม หรือบุคคลใด ๆ ว่าการชำระเงินไปยัง ผ่าน หรือจากบัญชีธนาคารนั้นผิดกฎหมาย หรือละเมิดข้อกำหนดด้านอาชญากรรมทางการเงินที่ใช้บังคับ

12.9 Booking.com และ/หรือบริษัทแอฟฟิลิเอตอาจเสนอผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการทางการเงินไว้บนแพลตฟอร์มเพิ่มเติมให้กับการจองของลูกค้า (เช่น ผลิตภัณฑ์ประกันการยกเลิกห้องพัก) โดยที่พักไม่สามารถเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่คล้ายคลึงกันนี้บนแพลตฟอร์มได้

12.10 Booking.com สามารถอัปเดตและแก้ไขข้อกำหนดนี้เป็นครั้งคราวได้ โดยต้องมีการสื่อสารกับที่พักล่วงหน้า และมีระยะแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วัน โดยในระหว่างระยะแจ้งให้ทราบล่วงหน้านั้น ที่พักอาจยุติข้อตกลงฉบับนี้ได้หากประสงค์ที่จะทำเช่นนั้น ข้อกำหนดฉบับอัปเดตหรือแก้ไขแล้วจะมีผลแทนที่ฉบับปัจจุบันที่ใช้อยู่ในขณะนั้น โดยจะมีผลนับจากวันที่ที่ระบุในการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ภาคผนวก 1

แนวทางด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูล (“แนวทาง”)

1. ขอบเขต คำนิยาม และการตีความ

1.1 ลำดับความสำคัญ

1.1.1 ข้อกำหนดและเงื่อนไขของข้อตกลงฉบับนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงและมีผลบังคับใช้อย่างเต็มที่ เว้นแต่จะมีการระบุเป็นอื่นไว้ในแนวทางเหล่านี้

1.2 บริการของ Booking.com

1.2.1 ที่พักรับทราบว่าบริการนั้นดำเนินการโดย Booking.com B.V. ซึ่งตั้งอยู่ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในกรณีที่แอฟฟิลิเอตของ Booking.com (แทนที่จะเป็น Booking.com B.V) เป็นคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งของข้อตกลงฉบับนี้ การอ้างอิงใดก็ตามถึง Booking.com ในแนวทางเหล่านี้จะต้องอ้างอิงถึงแอฟฟิลิเอตของ Booking.com B.V. ด้วยเช่นกันตามที่เหมาะสม

1.2.2 หากที่พักไม่ได้ดำเนินการแต่เพียงผู้เดียวและโดยตรงกับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจองของลูกค้า (แล้วแต่กรณี เช่น ที่พักเป็นหรือเป็นตัวแทนเครือบริษัท บริษัทจัดการทรัพย์สิน ฯลฯ) ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลการจอง คำขอและการอัปเดต ตลอดจนข้อมูลการเช็คอิน (“ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า”) ภาคผนวกนี้จะใช้กับที่พักที่ดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าในท้ายที่สุด Booking.com อาจพิจารณาให้ที่พัก (ไม่ว่าจะมีนิติบุคคลที่ทำสัญญาด้วยหรือไม่) เป็นผู้ควบคุมข้อมูล (แต่เพียงผู้เดียว) สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่มีการดำเนินการในบริบทของข้อตกลงฉบับนี้

1.3 คำนิยาม

1.3.1 คำเฉพาะที่เขียนด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษพิมพ์ใหญ่จะมีความหมายเช่นเดียวกับที่ระบุไว้ในข้อตกลงฉบับนี้ เว้นแต่จะมีการนิยามไว้เป็นอย่างอื่นในแนวทางเหล่านี้

1.4 การแจ้งเตือน

1.4.1 การแจ้งเตือนหรือการติดต่อใด ๆ จากที่พักที่เกี่ยวข้องกับแนวทางเหล่านี้จะถูกส่งไปยัง dataprotectionoffice@booking.com เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่นในแนวทางเหล่านี้

2. ความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองข้อมูล

2.1 ความสัมพันธ์

2.1.1 ในกรณีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลในบริบทของข้อตกลงฉบับนี้ จะถือว่าเป็นการกระทำเพื่อวัตถุประสงค์ของตนเองในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลที่เป็นอิสระและไม่ขึ้นกับใคร และจะต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการปฏิบัติตามกฎหมายเทคโนโลยีและข้อมูล

2.1.2 ในกรณีที่ Booking.com ส่งหรือทำให้ที่พักมีข้อมูลส่วนบุคคลตามข้อตกลงฉบับนี้ ที่พักจะทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลที่เป็นอิสระและไม่ขึ้นกับใครในการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวด้วยตนเอง โดยไม่คำนึงว่าจะได้ข้อมูลดังกล่าวโดยทางตรงหรือทางอ้อมผ่าน Connectivity Provider

2.1.3 คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะไม่ดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ในนามของอีกฝ่าย คู่สัญญาไม่ได้ร่วมกันกำหนดวัตถุประสงค์และวิธีการในการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ในบริบทของข้อตกลงฉบับนี้

2.1.4 แม้จะมีการกล่าวไว้ข้างต้น หากคู่สัญญาร่วมกันกำหนดวัตถุประสงค์และวิธีการของกิจกรรมการดำเนินการใด ๆ ในบริบทของข้อตกลงฉบับนี้ คู่สัญญาจะต้องกำหนดความรับผิดชอบของตนโดยสุจริตในการปฏิบัติตามภาระผูกพันภายใต้กฎหมายเทคโนโลยีและข้อมูล

2.2 การแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล

2.2.1 ที่พักมีหน้าที่ในการส่งหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับ Booking.com ในกรณีที่การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวได้รับอนุญาตภายใต้กฎหมายที่บังคับใช้ ซึ่งรวมถึงกฎหมายเทคโนโลยีและข้อมูล

2.2.2 ที่พักอาจขอให้ Booking.com เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าแก่คู่ค้า ผู้ให้บริการ หรือแอฟฟิลิเอตอื่น ๆ ของที่พัก (“ที่พักคู่ค้า”) หรือเปิดเผยแก่ระบบซึ่งคู่ค้าของที่พักอาจเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เพื่อจัดการหรืออำนวยความสะดวกด้านการจองระหว่างลูกค้ากับที่พัก การเปิดเผยใดก็ตามนั้นกระทำตามคำแนะนำและในนามของที่พักแต่เพียงผู้เดียว โดยที่พักอาจปรับเปลี่ยนคำแนะนำดังกล่าวได้ทุกเมื่อ และคำแนะนำจะต้องไม่ถูกตีความว่าการเปิดเผยนั้นกระทำโดย Booking.com ที่พักรับรองและรับประกันว่ามีสิทธิ อำนาจที่ได้รับมอบหมาย และการได้รับอนุญาตตามที่จำเป็นทั้งหมดในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าแก่คู่ค้าของที่พัก

2.2.3 คู่สัญญาแต่ละฝ่ายอาจส่งหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทแอฟฟิลิเอตหากการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวนั้นได้รับอนุญาตภายใต้กฎหมายที่บังคับใช้ รวมถึงกฎหมายเทคโนโลยีและข้อมูล

2.2.4 คู่สัญญาเข้าใจและยอมรับว่า Booking.com จะส่งหรือให้ข้อมูลลูกค้าและข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าแก่ที่พัก ที่พักจะดำเนินการกับข้อมูลลูกค้าและข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าเท่าที่จำเป็นเท่านั้นเพื่อปฏิบัติตามภาระผูกพันภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ หรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่มีการตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างคู่สัญญา หากที่พักมีมูลเหตุทางกฎหมายซึ่งรวมถึงความยินยอมจากลูกค้าในกรณีที่จำเป็น และสอดคล้องกับกฎหมายเทคโนโลยีและข้อมูลเสมอ

2.2.5 Booking.com จะส่งหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าแก่ที่พักผ่าน Connectivity Provider เท่านั้นเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของข้อตกลงฉบับนี้ และโดยอิงจากพื้นฐานดังต่อไปนี้:

(i) Connectivity Provider จะเปิดใช้งานโดยที่พักเพื่อให้บริการ Connectivity และทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการกับข้อมูล (กล่าวคือ บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล หน่วยงานสาธารณะ ตัวแทน หรือหน่วยงานอื่น ๆ ที่ดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลในนามของผู้ควบคุมข้อมูล) ในนามของที่พัก

(ii) ที่พักร้องขอให้ Booking.com ส่งหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าแก่ Connectivity Provider (เพื่อให้ Connectivity Provider ดำเนินการเพื่อวัตถุประสงค์ที่กำหนดโดยที่พักแต่เพียงผู้เดียว) แทนที่จะส่งให้ที่พักโดยตรง และ

(iii) Connectivity Provider จะไม่ดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าในนามของ Booking.com

2.2.6 Booking.com จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าแก่ที่พักบนเอกซ์ทราเน็ตเป็นระยะเวลาสามสิบ (30) วัน (หรือโดยวิธีการอื่นใดและสำหรับช่วงเวลาอื่นใดตามที่ Booking.com กำหนด และตามที่แจ้งให้ที่พักทราบล่วงหน้า) หลังจากที่การเข้าพักของลูกค้าสิ้นสุดลงหรือหลังจากวันที่ยกเลิกการจอง Booking.com ไม่มีภาระผูกพันในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าแก่ที่พักนอกเหนือจากประเด็นนี้

2.3 ความโปร่งใส

2.3.1 คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของ/ที่เกี่ยวข้องกับอีกฝ่าย (และ/หรือบุคคลใด ๆ ที่กระทำการในนามของตน) ตามแถลงการณ์ความเป็นส่วนตัวที่เจ้าของข้อมูลสามารถเข้าถึงได้ในลักษณะที่โปร่งใสก่อนหรือในขณะที่ฝ่ายดังกล่าวเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล หรือโดยเร็วหลังจากนั้น ตามที่กฎหมายเทคโนโลยีและข้อมูลอนุญาต ที่พักอาจอ้างถึงแถลงการณ์ความเป็นส่วนตัวของตนในส่วนที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าและข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าที่อยู่ในข้อมูลซึ่งที่พักเผยแพร่ผ่านบริการ

2.3.2 Booking.com จะดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลที่รวบรวมมาและเกี่ยวข้องกับที่พัก และ/หรือบุคคลใด ๆ ที่ดำเนินการในนามของที่พักตามแถลงการณ์ความเป็นส่วนตัวสำหรับคู่ค้าธุรกิจของ Booking.com (ปรากฏบนแพลตฟอร์ม) และตามที่แก้ไขโดย Booking.com เป็นครั้งคราว

2.3.3 ที่พักรับประกันว่าในกรณีที่มีการให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่ Booking.com ตามกฎหมายเทคโนโลยีและข้อมูล ที่พักได้แจ้งให้พนักงาน ตัวแทน ผู้แทน และบุคคลอื่น ๆ ทราบ และได้รับความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้นในกรณีที่จำเป็น เกี่ยวกับการรวบรวมและดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลโดย Booking.com ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อตกลงฉบับนี้

2.4 ความร่วมมือ

2.4.1 คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะต้องให้ความร่วมมือ ความช่วยเหลือ และข้อมูลทั้งหมดตามสมควร เพื่อให้อีกฝ่ายสามารถปฏิบัติตามภาระผูกพันของตนภายใต้กฎหมายเทคโนโลยีและข้อมูลได้โดยเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้วยตนเอง คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะต้องช่วยเหลืออีกฝ่ายหนึ่งในการดำเนินการต่อไปนี้:

(i) ตอบรับคำขอจากหน่วยงานที่มีอำนาจ (รวมถึงหน่วยงานควบคุมดูแล) ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการดำเนินการและแบ่งปันในบริบทของข้อตกลงฉบับนี้

(ii) ตอบรับคำขอจากเจ้าของข้อมูลที่ต้องการใช้สิทธิความเป็นส่วนตัวของตน รวมถึงสิทธิภายใต้กฎหมายเทคโนโลยีและข้อมูล

(iii) ดำเนินการประเมินเพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้ รวมถึงกฎหมายเทคโนโลยีและข้อมูล

2.5 การถ่ายโอนข้อมูลไปยังประเทศที่สาม

2.5.1 คู่สัญญาจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลถูกถ่ายโอนไปยังหรือเข้าถึงได้โดยผู้รับที่อยู่นอกเขตเศรษฐกิจยุโรปเท่านั้น (“ประเทศที่สาม”) หากการถ่ายโอนดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายเทคโนโลยีและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

2.5.2 ในกรณีที่มีการถ่ายโอนข้อมูลใด ๆ ไปยังประเทศที่สาม คู่สัญญาจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคู่สัญญาได้จัดเตรียมมาตรการทางเทคนิค องค์กร และสัญญาที่เหมาะสม เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายเทคโนโลยีและข้อมูล ในกรณีที่ประเทศปลายทางของการถ่ายโอนข้อมูลไม่ได้รับการยอมรับจากคณะกรรมาธิการยุโรปว่ามีการคุ้มครองข้อมูลในระดับที่เพียงพอ

2.5.3 คู่สัญญารับทราบว่าการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ โดย Booking.com ภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้จำเป็นสำหรับคู่สัญญา ไม่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่าย ในการสรุปหรือทำข้อตกลงกับลูกค้า และ/หรือเพื่อผลประโยชน์ของลูกค้า โดยไม่กระทบต่อสิทธิของคู่สัญญาในการตัดสินใจใช้เหตุผลอันสมควรอื่นสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลบางรายการ

2.5.4 หากหน่วยงานใดก็ตามของประเทศที่สามร้องขอการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ฝ่ายที่ได้รับคำขอจะรับหน้าที่ในการประเมินความถูกต้องตามกฎหมายและความชอบด้วยกฎหมายของตนอย่างถูกต้องสมบูรณ์ก่อนที่จะตอบรับคำขอ และดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมในการตอบรับคำขอ

ภาคผนวก 2

ความปลอดภัยและการละเมิดข้อมูล

1. มาตรการด้านความปลอดภัย

1.1 คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะต้องปฏิบัติตามและคงไว้ซึ่งมาตรการด้านความปลอดภัยทางเทคนิคและขององค์กรที่เหมาะสมเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้:

(i) เพื่อคุ้มครองการรักษาความลับ ความสมบูรณ์ ความพร้อมในการใช้งาน และความต่อเนื่องของข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่เป็นความลับที่มีการนำส่ง จัดเก็บ หรือดำเนินการในบริบทของข้อตกลงฉบับนี้ (ไม่ว่าจะอยู่ภายใต้การควบคุมโดยตรงหรือโดยอ้อมของฝ่ายดังกล่าว) ตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงที่แพร่หลายและเป็นปัจจุบันในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านมาตรการต่าง ๆ เช่น การเข้ารหัสและการใช้นามแฝง (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในบริบทของการถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างประเทศ)

(ii) เพื่อตรวจจับ รักษา และป้องกันการละเมิดความปลอดภัยซึ่งนำไปสู่ความเสียหาย การสูญเสีย การเปลี่ยนแปลง การใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต การถ่ายโอนหรือการเปิดเผย หรือการเข้าถึงข้อมูลที่เป็นความลับหรือข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่มีการนำส่ง จัดเก็บ หรือดำเนินการอื่น ๆ ในบริบทของข้อตกลงฉบับนี้ ไม่ว่าโดยบังเอิญหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย (“เหตุการณ์ด้านความปลอดภัย”) โดยคำนึงถึงแนวโน้มเกี่ยวกับเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยในอุตสาหกรรมและที่สอดคล้องกับกฎหมายที่บังคับใช้ มาตรฐานอุตสาหกรรมที่ทันสมัย รวมถึงระบบเฝ้าติดตาม ระบบแจ้งเตือน กระบวนการสำรองข้อมูล และไฟร์วอลล์อันโดดเด่น

(iii) เพื่อปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่เกี่ยวเนื่องกับการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพและความปลอดภัยของข้อมูล และเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่เป็นความลับและข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

1.2 ที่พักจะต้องไม่กระทำการ หรือละเว้นกระทำการใด ๆ ที่มีหรืออาจคาดหมายได้ตามเหตุอันสมควรว่าจะมีผลกระทบในเชิงลบต่อความปลอดภัยของบริการหรือระบบ

1.3 คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะต้องใช้ความพยายามตามสมควรเพื่อ:

(i) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบคอมพิวเตอร์ ฐานข้อมูล เซิร์ฟเวอร์ การเชื่อมต่อและการประสาน API ไม่และจะไม่ทำให้ซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ หรือมาตรการรักษาความปลอดภัยของอีกฝ่ายไม่สามารถใช้การได้ หรือมีส่วนประกอบที่อาจส่งผลที่เป็นภัย เป็นอันตราย หรือในเชิงลบต่อหรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่อีกฝ่าย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงเวิร์ม ไวรัส ม้าโทรจัน ไฟล์ที่เสียหาย โปรแกรมแคร็ก บั๊ก หรือโปรแกรมที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือซ่อนเร้นไว้ หรือส่วนประกอบอื่น ๆ

(ii) ป้องกันและตรวจจับกิจกรรมวิศวกรรมสังคมจากบุคคลที่สาม ซึ่งรวมถึงการยึดแอคเคาท์ ที่อาจส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับเอกซ์ทราเน็ต และ

(iii) ปกป้องและรักษา ID ผู้ใช้และรหัสผ่านเอกซ์ทราเน็ตไว้เป็นความลับและอย่างปลอดภัย และจะต้องไม่เปิดเผย ID ผู้ใช้และรหัสผ่านให้ผู้อื่นทราบ เว้นแต่ผู้ที่จำเป็นต้องเข้าถึงเอกซ์ทราเน็ตเพื่อปฏิบัติงานตามหน้าที่

2. เหตุการณ์ด้านความปลอดภัยและการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

2.1 หากที่พักทราบหรือมีเหตุผลที่เหมาะสมให้สงสัยว่าอาจมีเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่อาจเป็นอันตรายต่อแพลตฟอร์มหรือระบบของ Booking.com ฐานข้อมูล ข่าวสาร ข้อมูล เซิร์ฟเวอร์ การเชื่อมต่อ การประสาน เว็บไซต์ ตลอดจนเอกซ์ทราเน็ต และข้อมูลที่เป็นความลับหรือข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่มีการจัดเก็บ นำส่ง หรือดำเนินการในบริบทของข้อตกลงฉบับนี้ รวมถึงผ่านทาง Connectivity Provider ที่พักจะต้องดำเนินการดังนี้:

(i) ดำเนินการทั้งหมดตามสมควรและตามความเหมาะสมที่จำเป็นในสถานการณ์ดังกล่าวทันที แม้กระทั่งก่อนจะมีการปรึกษาหารือกับ Booking.com ภายใต้ข้อ 2.1(ii) เพื่อป้องกัน หลีกเลี่ยง หรือบรรเทาอันตรายหรือผลในเชิงลบใด ๆ ต่อ Booking.com และลูกค้า และ

(ii) แจ้งให้ Booking.com ทราบผ่านทาง https://report.booking.com โดยไม่ล่าช้าเกินควรและจะต้องแจ้งภายใน 24 ชั่วโมงเสมอนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย ทั้งที่เกิดขึ้นจริงหรือต้องสงสัย และหารือกับ Booking.com เพื่อดำเนินการตามสมควรและตามความเหมาะสม โดยไม่ส่งผลกระทบต่อข้อ 2.1(i)

(iii) รับผิดชอบในการให้ข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดแก่ Booking.com โดยไม่ต้องรอให้ร้องขอ เพื่อให้แน่ใจว่า Booking.com ยังคงได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วนและสามารถดำเนินการด้วยตนเองในการตรวจสอบที่เกี่ยวข้องกับสาเหตุ มาตรการบรรเทาความเสียหายที่ใช้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นเนื่องจากคู่สัญญาและบุคคลที่สามที่มีความเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย โดยเป็นไปตามข้อจำกัดที่มีอยู่ภายใต้กฎหมายที่บังคับใช้

(iv) ให้ความร่วมมือกับ Booking.com ในการดำเนินการตามสมควรและตามความเหมาะสมเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยและลดความเสี่ยงของเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่คล้ายคลึงกันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

2.2 ที่พักจะดำเนินการดังต่อไปนี้ โดยเป็นไปตามข้อกำหนดบังคับภายใต้กฎหมายที่บังคับใช้:

(i) จะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการหารือกับ Booking.com และคำนึงถึงข้อกำหนดที่เหมาะสมของ Booking.com เกี่ยวกับจังหวะเวลา เนื้อหาและลักษณะการเปิดเผยหรือการแจ้งเตือน ตลอดจนผู้รับข้อมูล ก่อนที่จะทำการเปิดเผยหรือแจ้งเตือนแก่บุคคลที่สาม (รวมถึงหน่วยงานควบคุมดูแล) ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย

(ii) รับทราบและยอมรับว่า Booking.com จะสงวนสิทธิในการแจ้งให้บุคคลที่สามทราบ (รวมถึงหน่วยงานควบคุมดูแลและลูกค้า) โดยสมัครใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย และ

(iii) จะไม่แจ้งให้ลูกค้าหรือบุคคลที่สามอื่นใดทราบถึงเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ Booking.com จัดการหรือจัดเก็บไว้บนเอกซ์ทราเน็ตโดยไม่ได้รับอนุญาตล่วงหน้าอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Booking.com

2.3 Booking.com จะแจ้งให้ที่พักทราบโดยไม่ล่าช้าเกินควรในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่ส่งผลกระทบที่เป็นภัยและร้ายแรงต่อที่พัก Booking.com จะไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ที่พักทราบถึงการหยุดทำงาน การหยุดชะงักโดยทั่วไป หรือข้อบกพร่องอื่น ๆ ที่ไม่ส่งผลกระทบกับที่พักนั้นโดยเฉพาะ

ภาคผนวก 3A

ข้อกำหนดการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินสำหรับการทำธุรกรรมทั้งหมด ยกเว้นธุรกรรมที่ภาคผนวก 3B หรือ 3C มีผลบังคับใช้

1. ขอบเขต คำนิยาม และการตีความ

1.1 ภาคผนวก 3A นี้เป็นส่วนสำคัญของข้อตกลงฉบับนี้และต้องอ่านร่วมกัน ข้อกำหนดและเงื่อนไขของข้อตกลงฉบับนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงและมีผลบังคับใช้อย่างเต็มที่ เว้นแต่จะมีการระบุไว้เป็นอื่นในภาคผนวก 3A นี้

1.2 คำเฉพาะที่เขียนด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษพิมพ์ใหญ่จะมีความหมายเช่นเดียวกับที่ระบุไว้ในข้อตกลงฉบับนี้ เว้นแต่จะมีการนิยามไว้เป็นอย่างอื่นในภาคผนวก 3A นี้ การอ้างอิงในภาคผนวก 3A นี้เกี่ยวกับข้อใดก็ตามจะหมายถึงข้อในภาคผนวก 3A นี้ เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น

2. การอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน

2.1 Booking.com อาจเสนอบริการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน Booking.com อาจให้บุคคลที่สามเข้ามามีส่วนร่วมเป็นครั้งคราวเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินการด้านการชำระเงินภายใต้การอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน (“ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน”) Booking.com ทำสัญญากับผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินเพื่อจุดประสงค์ในการรวบรวมการชำระเงินจากลูกค้า รวมถึงการโอนเงินไปให้และการชำระเงินกับที่พัก

2.2 การชำระเงินใด ๆ จากลูกค้าแก่ Booking.com หรือผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินในฐานะตัวแทนของที่พักจะต้องชำระหนี้และปลดเปลื้องยอดที่สอดคล้องกับหนี้ซึ่งลูกค้ามีกับที่พัก Booking.com อาจเรียกเก็บเงินหรือขอให้ที่พักชดเชยสำหรับต้นทุนและค่าใช้จ่าย รวมทั้งภาษี (หากมี) สำหรับและที่เกี่ยวข้องกับบริการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน และธุรกรรมการชำระเงินที่จำเป็น (รวมถึงค่าธรรมเนียม ต้นทุน และจำนวนเงินอื่น ๆ ที่เรียกเก็บโดยผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน ธนาคาร หรือบริษัทบัตรเครดิต สำหรับการทำธุรกรรมดังกล่าว) (“ค่าธรรมเนียมการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน”) ตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาต ที่พักจะชำระค่าธรรมเนียมการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินตามข้อกำหนดในใบแจ้งหนี้

2.3 ในกรณีที่ Booking.com (ผ่านผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน) ไม่โอนเงินที่ถึงกำหนดชำระไปยังที่พักภายใต้การอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน ที่พักจะขอความช่วยเหลือจาก Booking.com เท่านั้นและไม่เรียกร้องจากลูกค้าโดยตรง

3. ราคาห้องพัก

3.1 ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินจะรวบรวมและดำเนินการกับราคาห้องพักตามนโยบายการชำระเงินของที่พัก (ตามขอบเขตที่บังคับใช้) ตามที่เปิดเผยบนแพลตฟอร์ม

3.2 ที่พักจะไม่เรียกเก็บหรือขอให้มีการชำระเงินจากลูกค้าสำหรับยอดที่ไม่ได้รวมอยู่ในราคาห้องพักอยู่ก่อนแล้ว เว้นแต่ Booking.com ระบุว่าภาษี ค่าธรรมเนียม การเรียกเก็บเงิน ส่วนเสริม (เช่น อาหารเช้า) หรือยอดอื่นใดบางอย่างนั้นไม่ได้รวมอยู่ในราคาห้องพัก (“องค์ประกอบที่ไม่รวมอยู่ในราคา”)

3.3 Booking.com จะโอนราคาห้องพักไปยังที่พัก โดยเป็นไปตามกฎที่กำหนดไว้ในข้อ 3.3, 3.4 และ 6.1 ถึง 8.1 ของภาคผนวกนี้ จำนวนเงินหนึ่งในจำนวนเงินต่อไปนี้จะโอนไปยังที่พักตามที่ตกลงกันระหว่างคู่สัญญาเป็นครั้งคราว:

(i) ยอดคงเหลือของราคาห้องพัก ซึ่งหักลบคอมมิชชั่นที่ครบกำหนดชำระและค้างชำระ (หากได้รับอนุญาต) ตลอดจนหักค่าธรรมเนียม ต้นทุน และค่าใช้จ่าย อีกทั้งยอดเงินอื่นใดที่ต้องชำระแก่ Booking.com หรือโอนให้เป็นยอดที่มีมูลค่าเทียบเท่าในสกุลเงินอื่น (“ยอดสุทธิ”) หรือ

(ii) ราคาห้องพักหักลบยอดที่ Booking.com จำเป็นต้องหักออกตามกฎหมายหรือข้อบังคับในท้องถิ่น หรือโอนให้เป็นยอดที่มีมูลค่าเทียบเท่าในสกุลเงินอื่น (“ยอดรวม”)

3.4 การโอนอาจเกิดขึ้นโดยการโอนผ่านธนาคาร (ในกรณีนี้ จะโอนยอดสุทธิหรือยอดรวม) โดยการให้บัตรเครดิตเสมือนจริงแก่ที่พัก (“บัตรเสมือนจริง”) (ในกรณีนี้ จะโอนเฉพาะยอดรวม) หรือตามที่ Booking.com แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร

4. การใช้เงินในการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน

4.1 Booking.com อาจใช้การอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน และ/หรือวิธีการชำระเงิน (ออนไลน์) อื่น ๆ เป็นครั้งคราว เช่น บัตรเครดิตเสมือนจริง เพื่อจุดประสงค์ต่อไปนี้:

(i) การชำระราคาห้องพัก (ล่วงหน้า) โดยลูกค้าแก่ที่พัก ผ่านผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน

(ii) การจ่ายและ/หรือการชำระคอมมิชชั่น ค่าธรรมเนียมการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน และ/หรือยอดอื่น ๆ ซึ่งที่พักต้องจ่ายให้แก่ Booking.com และ

(iii) การหักคอมมิชชั่น ค่าธรรมเนียมการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน และ/หรือยอดอื่น ๆ ซึ่งที่พักต้องจ่ายให้แก่ Booking.com โดยหักจากราคาห้องพักที่มีการดำเนินการในช่วงเวลาใดก็ตามผ่านผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน

4.2 ในกรณีที่มีเงินไม่เพียงพอที่จะชำระยอดทั้งหมดที่คงค้างแก่ Booking.com นั้น Booking.com อาจเรียกเก็บยอดที่ขาดจากที่พักด้วยวิธีหักบัญชีอัตโนมัติ (หากมี) หรือหักจากค่ามัดจำ (หากมี) หรือกรณีที่ Booking.com ร้องขอตั้งแต่ครั้งแรก สั่งให้ที่พักชำระยอดที่ขาดไปยังบัญชีธนาคารเป็นครั้งคราวตามที่ระบุโดย Booking.com

5. ภาษี

5.1 เว้นแต่กฎหมายท้องถิ่นที่บังคับใช้จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น หรือไม่เช่นนั้นแล้วก็จนกว่า Booking.com จะมีการสื่อสารเป็นลายลักษณ์อักษร ที่พักจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการเรียกเก็บ นำส่ง หัก ณ ที่จ่าย และชำระภาษีดังต่อไปนี้ให้กับหน่วยงาน (ภาษี) ที่เกี่ยวข้อง (ตามที่เหมาะสม):

(i) ภาษีที่เกี่ยวข้องกับราคาห้องพักและค่าบริการพิเศษ และจำนวนเงินที่ไม่รวมอยู่ในราคาห้องพัก และ

(ii) ภาษีจากคอมมิชชั่น

5.2 แม้ว่าตามข้อ 4.1 ของภาคผนวกนี้ Booking.com ใช้ราคาห้องพักที่เรียกเก็บจากลูกค้า (ในฐานะตัวแทนที่มีวัตถุประสงค์จำกัดของที่พัก) สำหรับการชำระคอมมิชชั่น ค่าธรรมเนียมการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน และ/หรือยอดอื่นใดที่ครบกำหนดชำระและที่ค้างชำระโดยที่พัก แต่ทว่าที่พักจะต้องส่งเงินเป็นจำนวนเท่ากับภาษีเต็มจำนวนที่เรียกเก็บเป็นส่วนหนึ่งของราคาห้องพักให้กับหน่วยงานด้านภาษีที่เหมาะสม

6. กฎทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการโอนเงิน

6.1 หากสงสัยว่ามีการฉ้อโกงหรือความไม่ชอบด้วยกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม Booking.com อาจระงับการชำระยอดสุทธิหรือยอดรวมโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า การจองของลูกค้าที่มีการกล่าวหาหรือสงสัยว่ามีการฉ้อโกงจะถูกยกเลิก ในกรณีที่การจองของลูกค้าแบบไม่สามารถรับเงินคืนถูกยกเลิกตามข้อ 6.1 นี้ ที่พักจะยังคงได้รับยอดชำระหากไม่มีการกล่าวหาหรือสงสัยว่าที่พักมีความเกี่ยวข้องกับการยกเลิกดังกล่าว

6.2 โดยไม่คำนึงถึงข้อ 6.1 การชำระยอดสุทธิหรือยอดรวมอาจถูกระงับหาก Booking.com สงสัยว่าที่พักละเมิดข้อตกลงฉบับนี้

6.3 ยอดสุทธิหรือยอดรวมใด ๆ ที่ถือโดยธนาคาร ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน หรือบุคคลที่สามตามภาคผนวกนี้จะไม่มีดอกเบี้ยงอกเงย

6.4 หากที่พักระบุราคาห้องพักในสกุลเงินใด ก็จะได้รับยอดนั้นในสกุลเงินดังกล่าว หากที่พักพยายามยอมรับการชำระราคาห้องพักในบัญชีที่มีสกุลเงินต่างจากราคาห้องพัก หรือพยายามแปลงสกุลเงินเองสำหรับยอดที่ต้องชำระ ที่พักจะต้องรับความเสี่ยงทั้งหมดจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งรวมถึงการแปลงสกุลเงินสำหรับราคาห้องพัก ที่พักยอมรับและรับทราบว่า สืบเนื่องจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา และค่าใช้จ่าย/ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บโดยธนาคาร บริษัทบัตรเครดิต และตัวกลางอื่น ๆ สำหรับการเรียกเก็บ ดำเนินการ และชำระยอดเงินที่เกี่ยวข้อง อาจทำให้มีความแตกต่างระหว่างราคาห้องพัก (ซึ่งที่พักอัปโหลดในระบบ) กับจำนวนเงินที่เรียกเก็บ และกับจำนวนเงินซึ่งที่พักได้รับ

6.5 หาก Booking.com จะต้องทำการคืนเงินเต็มจำนวนราคาห้องพักหรือบางส่วนให้แก่ลูกค้า ตามกฎหมาย คำสั่งศาล คำสั่งหรือระเบียบ (กึ่ง) ราชการ คำตัดสินจากอนุญาโตตุลาการ (หรือคำวินิจฉัยชี้ขาดที่คล้ายกัน) หมายศาล หรือนโยบายการยกเลิกการจอง หรือมีเหตุอันควรให้เชื่อตามสมควรว่าที่พักกระทำการฉ้อโกง Booking.com ขอสงวนสิทธิในการเรียกร้องให้ที่พักชำระคืนสำหรับยอดที่จ่าย (คืน) ให้ลูกค้าแต่ ที่พักเป็นผู้ได้รับ การชำระเงินโดยที่พักภายใต้ข้อ 6.5 นี้จะต้องดำเนินการภายใน 14 วันนับจากวันที่ Booking.com ร้องขอ

6.6 ในกรณีที่ที่พักตกลงคืนเงินสำหรับราคาห้องพักแบบไม่สามารถรับเงินคืนซึ่งมีการชำระไปแล้วเต็มจำนวนหรือบางส่วน (หรือเป็นส่วนหนึ่ง) Booking.com อาจชำระยอดที่เกี่ยวข้องให้กับลูกค้าแทนที่พัก ในกรณีที่ยอดเงินที่เกี่ยวข้องได้มีการโอนไปยังที่พักตามภาคผนวกนี้ ที่พักจะจ่ายคืนยอดที่เกี่ยวข้องด้วยวิธีใดตามสมควรตามที่ Booking.com ร้องขอ ในกรณีที่ยอดเงินที่เกี่ยวข้องไม่ได้ถูกโอนไปยังที่พักตามภาคผนวกนี้ Booking.com จะไม่โอนยอดเงินที่เกี่ยวข้อง และ/หรืออาจหยุดการโอนยอดเงินที่เกี่ยวข้อง

6.7 Booking.com อาจเรียกเก็บคอมมิชชั่นจากราคาห้องพัก ซึ่งมีการเรียกเก็บและโอนให้ที่พักแล้วในกรณีที่มีการไม่เข้าเช็คอินหรือยกเลิกการจอง ในกรณีที่มีการจองเกินจำนวนจัดสรร คอมมิชชั่นจะได้รับการคำนวณอย่างสอดคล้องกับข้อกำหนดของข้อตกลงฉบับนี้

6.8 เว้นแต่กฎหมายที่บังคับใช้จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ที่พักจะออกใบเสร็จ/ใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้าเป็นยอดเงินเต็มจำนวนของการจอง (ซึ่งรวมถึง/บวกภาษีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดตามที่กฎหมายที่บังคับใช้กำหนด) ที่พักจะไม่ออกใบแจ้งหนี้ (หรือส่งใบแจ้งหนี้) ให้ Booking.com สำหรับการจองหรือการเข้าพัก ไม่มีส่วนใดในข้อตกลงฉบับนี้ที่ระบุหรือบอกเป็นนัยว่า Booking.com ทำหน้าที่หรือปฏิบัติการในฐานะตัวการ ผู้จำหน่าย หรือผู้ขาย (ต่อ) ห้องพัก

7. การชำระเงินผ่านบัตรเสมือนจริง

7.1 ที่พักไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่สามารถเรียกเก็บเงินจากบัตรเสมือนจริงจนกว่าจะถึงวันที่การจองของลูกค้าไม่สามารถรับเงินคืนได้ หรือนับจากวันที่อื่นใดที่ Booking.com อาจแจ้งให้ทราบ โดยไม่กระทบต่อสิทธิอื่น ๆ ของ Booking.com ภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ ในกรณีที่ Booking.com:

(i) พยายามจำกัดความเสี่ยงทางการเงิน (โดยรวม)

(ii) สงสัยว่าการชำระเงินมีความเสี่ยงที่จะถูกปฏิเสธการชำระเงิน หรือ

(iii) สงสัยว่ามีการฉ้อโกงหรือความไม่ชอบด้วยกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรม

7.2 บัตรเสมือนจริงสามารถใช้ได้กับการจอง ยอดเงินและสกุลเงินที่ระบุในข้อมูลยืนยันการจองที่กำหนดให้บัตรดังกล่าวเท่านั้น ที่พักจะต้องเรียกเก็บยอดรวมด้วยการเรียกชำระบัตรเสมือนจริงภายในช่วงเวลาที่กำหนดซึ่งจะสิ้นสุดลงเมื่อผ่านวันเช็คเอาท์ของลูกค้าไปแล้ว 12 เดือน (“วันสุดท้ายที่ดำเนินการได้”) ก่อนถึงวันสุดท้ายที่ดำเนินการได้ Booking.com จะใช้ความพยายามตามสมควรในเชิงพาณิชย์ เพื่อแจ้งที่พักเกี่ยวกับยอดรวมหรือยอดใดก็ตามซึ่งที่พักสามารถเรียกเก็บได้ โดยการที่ Booking.com แจ้งให้ที่พักทราบเกี่ยวกับ (ส่วนหนึ่งของ) ยอดรวมที่ที่พักสามารถเรียกเก็บได้นั้น จะส่งผลให้ภาะผูกพันใด ๆ ที่ Booking.com อาจมีในการแจ้งให้ที่พักทราบภายใต้กฎหมายที่บังคับใช้ได้รับการปลดเปลื้อง

7.3 หากที่พักไม่สามารถเรียกเก็บ (ส่วนหนึ่งของ) ยอดรวมภายในวันสุดท้ายที่ดำเนินการได้ จะเกิดสิ่งต่อไปนี้นับจากวันสุดท้ายที่ดำเนินการได้:

(i) บัตรเสมือนจริงจะถูกปิดใช้งาน

(ii) สิทธิและการเรียกร้องของที่พักต่อจำนวนเงินดังกล่าว (รวมถึงสิทธิในการหักกลบลบหนี้) จะสิ้นสุดลงโดยอัตโนมัติ และ

(iii) Booking.com มีสิทธิ กรรมสิทธิ์ และผลประโยชน์ในจำนวนเงินดังกล่าวอย่างเต็มที่

7.4 นับตั้งแต่วันสุดท้ายที่ดำเนินการได้ ในที่นี้ถือว่าที่พักไม่ผูกมัดและปลดเปลื้อง Booking.com อย่างถาวรโดยไม่ต้องดำเนินการเพิ่มเติมใด ๆ จากข้อเรียกร้องทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับยอดรวม (ซึ่งรวมอย่างชัดเจนถึงข้อเรียกร้องที่เกี่ยวข้องกับ (ส่วนใดก็ตามของ) ยอดรวมตราบเท่าที่ยังไม่ได้มีการเรียกเก็บโดยที่พักก่อนวันสุดท้ายที่ดำเนินการได้) คู่สัญญายอมรับอย่างชัดแจ้งว่ายอดรวม (หรือส่วนใดก็ตามในที่นี้) ซึ่ง Booking.com เก็บไว้หลังวันสุดท้ายที่ดำเนินการได้หมดเขตนั้น จะไม่ทำให้เกิดคอมมิชชั่นหรือค่าตอบแทนอื่นซึ่งที่พักต้องจ่ายให้กับ Booking.com สำหรับการให้บริการภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้

8. การชำระเงินผ่านการโอนเงินผ่านธนาคาร

8.1 ที่พักจะแจ้งข้อมูลบัญชีธนาคารที่ถูกต้องแก่ Booking.com Booking.com จะโอนยอดสุทธิหรือยอดรวมไปยังบัญชีธนาคาร ที่พักจะรับผิดชอบต่อความเสี่ยงทั้งหมดซึ่งเกิดจากข้อมูลที่ไม่ถูกต้องซึ่งให้ไว้กับ Booking.com เช่น ข้อมูลบัญชีธนาคารที่ไม่ถูกต้อง การชำระยอดสุทธิหรือยอดรวมโดยการโอนเงินผ่านธนาคารจะดำเนินการภายใน 14 วันนับจากวันสิ้นเดือนที่ลูกค้าเช็คเอาท์ เว้นแต่ Booking.com จะแจ้งเป็นอย่างอื่น ที่พักอาจขอให้ Booking.com เปลี่ยนวิธีการโอนเงินเพื่อชำระราคาห้องพักในอนาคต จากการโอนเงินผ่านธนาคารเป็นบัตรเสมือนจริง

ภาคผนวก 3B

ข้อกำหนดการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินสำหรับที่พักที่ลงนามในเอกสารการดำเนินการด้านการชำระเงินกับผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินผ่านแพลตฟอร์ม

1. ขอบเขต คำนิยาม และการตีความ

1.1 ภาคผนวก 3B นี้เป็นส่วนสำคัญของข้อตกลงฉบับนี้และต้องอ่านร่วมกัน ข้อกำหนดและเงื่อนไขของข้อตกลงฉบับนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงและมีผลบังคับใช้อย่างเต็มที่ เว้นแต่จะมีการระบุเป็นอื่นไว้ในภาคผนวก 3B นี้

1.2 คำเฉพาะที่เขียนด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษพิมพ์ใหญ่จะมีความหมายเช่นเดียวกับที่ระบุไว้ในข้อตกลงฉบับนี้ เว้นแต่จะมีการนิยามไว้เป็นอย่างอื่นในภาคผนวก 3B นี้ การอ้างอิงในภาคผนวก 3B นี้เกี่ยวกับข้อใดก็ตามจะหมายถึงข้อในภาคผนวก 3B นี้ เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น

2. การอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน

2.1 ที่พักยอมรับและรับทราบว่า Booking.com อาจเสนอบริการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน

2.2 Booking.com อาจอนุญาตเป็นครั้งคราวให้บุคคลที่สาม (“ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน”) ปฏิบัติการผ่านแพลตฟอร์ม โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้อำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินได้ ภาคผนวก 3B นี้จะมีผลบังคับใช้หากประเภทของการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินที่จัดเตรียมไว้เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน:

(i) โดยให้บริการแก่และอยู่ภายใต้ความสัมพันธ์ซึ่งผูกพันโดยสัญญาโดยตรงกับที่พักด้วยการจัดหาและ/หรือมิฉะนั้นก็รวบรวมสิ่งต่อไปนี้:

a. การชำระเงินจากลูกค้าโดยดำเนินการในนามของที่พักในส่วนที่เกี่ยวกับวิธีชำระเงินที่ให้บริการโดยผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน

b. การชำระเงินจาก Booking.com ไปยังที่พัก

c. ยอดเงินที่ Booking.com มีสิทธิได้รับภายใต้ข้อตกลงนี้ และ/หรือ

d. การชำระเงินจากที่พักไปยัง Booking.com

(“การชำระเงินที่ดำเนินการแล้ว”) และ

(ii) การชำระเงินที่ดำเนินการแล้วกับที่พักหรือ Booking.com โดยตรง (ตามแต่กรณี)

(“บริการของผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน”)

2.3 คู่สัญญารับทราบว่าการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินภายใต้ภาคผนวก 3B นี้เกี่ยวข้องกับ:

(i) ข้อตกลงตามสัญญาแยกต่างหากระหว่างที่พักกับผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน (“เอกสารการดำเนินการด้านการชำระเงิน”) ซึ่ง Booking.com จะไม่ได้เป็นคู่สัญญาในข้อตกลงดังกล่าว และ

(ii) ข้อตกลงตามสัญญาแยกต่างหาก ซึ่งที่พักไม่ได้เป็นคู่สัญญา และเป็นไปตามที่ Booking.com อนุญาตให้ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินสามารถเสนอบริการของผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินผ่านแพลตฟอร์มให้กับที่พัก (“เอกสารระหว่าง Booking.com และผู้ดำเนินการ”)

2.4 หากที่พักเลือกใช้บริการของผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน และตกลงที่จะผูกมัดโดยเอกสารการดำเนินการด้านการชำระเงิน:

(i) ในที่นี้ ที่พักมอบอำนาจให้ Booking.com ดำเนินการขั้นตอนที่จำเป็นต่อการทำให้ตัวเลือกประสบผลและเพื่ออนุญาตให้ที่พักเปิดแอคเคาท์ใหม่กับผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินได้ และ/หรือเพื่อประสานแอคเคาท์ของที่พักที่มีอยู่เข้ากับผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน)

(ii) ที่พักจะใช้ความพยายามตามสมควรทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือ Booking.com ในการปฏิบัติตามภาระผูกพันซึ่งเกี่ยวข้องการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน ที่พักจะต้องให้ข้อมูลดังกล่าวแก่ Booking.com หรือตามที่ Booking.com กำกับเนื่องจากจำเป็นสำหรับการจัดให้มีการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน และสำหรับการระบุตัวตนของที่พักเพื่อจุดประสงค์ด้านกฎหมาย (ซึ่งรวมถึงการป้องกันการฉ้อโกง การฟอกเงิน และการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย) และ

(iii) ที่พักมอบอำนาจให้ Booking.com แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับที่พักให้แก่ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน

2.5 ที่พักจะต้องให้ข้อมูลทั้งหมดแก่ Booking.com หรือตามที่ Booking.com กำกับตามที่จำเป็นเพื่อให้ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินสามารถจ่ายเงินที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินที่ดำเนินการแล้วได้ ที่พักจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลทั้งหมดที่ให้ไว้กับ Booking.com นั้นสมบูรณ์และถูกต้อง อีกทั้งต้องรับผิดชอบความสูญเสียทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องกับ Booking.com และจะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ Booking.com สำหรับความรับผิด การสูญเสีย ต้นทุน และค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ Booking.com อาจประสบหรือได้รับอันเป็นผลจากการที่ข้อมูลดังกล่าวไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ ที่พักมอบอำนาจให้ Booking.com ให้คำแนะนำแก่ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินในนามของที่พัก ในส่วนของการเรียกเก็บ การดำเนินการ และการจ่ายของการชำระเงินที่ดำเนินการแล้ว โดยรวมถึงการคืนเงิน การเปลี่ยนกลับ การคืน ข้อพิพาท การปรับยอดเงิน การปฏิเสธการชำระเงิน หรือเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่พักมอบอำนาจให้ Booking.com แบ่งปันคำแนะนำเหล่านี้กับผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน

2.6 ที่พักจะใช้บริการของผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินเพื่อวัตถุประสงค์ในการเรียกเก็บการชำระเงินที่ดำเนินการแล้วเท่านั้น และจะปฏิบัติตามภาระผูกพันภายใต้เอกสารการดำเนินการด้านการชำระเงิน ที่พักจะชดใช้ค่าเสียหายแก่ Booking.com ต่อความรับผิด ความสูญเสีย ต้นทุน และค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ Booking.com อาจประสบหรือได้รับ (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงที่อยู่ภายใต้เอกสารระหว่าง Booking.com และผู้ดำเนินการ) อันเป็นผลมาจากการที่ที่พักไม่ปฏิบัติตามภาระผูกพันของตนเมื่อถึงกำหนด หรือเป็นผลมาจากการที่บุคคลที่สามใช้บริการผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินในทางที่ผิด เว้นแต่ว่าการใช้งานในทางที่ผิดดังกล่าวเป็นผลจากการจงใจละเลยหรือความประมาทเลินเล่อของ Booking.com รวมทั้งพนักงานหรือตัวแทนของ Booking.com

2.7 การให้บริการของผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินโดยผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินแก่ที่พักนั้นจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน และอาจถูกเพิกถอนได้ทุกเมื่อโดยผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินเมื่ออิงตามข้อกำหนดของเอกสารการดำเนินการด้านการชำระเงิน Booking.com จะไม่รับผิดใดๆ ต่อการตัดสินใจของผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินที่จะไม่ให้หรือยุติบริการของผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินแก่ที่พัก (ไม่ว่าจะเป็นธรรมหรือไม่ก็ตาม) หรือการที่ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินละเมิดหรือดำเนินการล่าช้าตามภาระผูกพันซึ่งมีต่อที่พักในส่วนที่เกี่ยวกับการให้บริการของผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน Booking.com จะไม่มีภาระผูกพันในการทำให้แน่ใจว่าบริการของผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินนั้นพร้อมให้ที่พักใช้งานอยู่เสมอ

2.8 Booking.com อาจแจ้งยุติหรือระงับตัวเลือกที่มีให้หรือการปฏิบัติการของการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน (ทั้งหมดหรือบางส่วน) ได้ทุกเมื่อ ในกรณีที่มีการกล่าวหาหรือต้องสงสัยว่ามีการฉ้อโกงบัตรเครดิต การฝ่าฝืนมาตรการลงโทษ หรือการละเมิดสัญญาที่เกี่ยวข้องกับที่พักหรือการชำระเงินใด ๆ ที่ดำเนินการแล้ว Booking.com และผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินอาจแบ่งปันข้อมูล (ขึ้นอยู่กับความเป็นส่วนตัวและภาระผูกพันทางกฎหมายของคู่สัญญาแต่ละฝ่าย) ที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงหรือการใช้บริการของผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินในทางที่ผิด ทั้งที่เกิดขึ้นจริงหรือต้องสงสัยใด ๆ

2.9 Booking.com อาจเรียกเก็บเงิน (ให้ฝ่ายอื่น) หรือขอให้ที่พักชดเชยสำหรับค่าธรรมเนียม ต้นทุน หรือค่าใช้จ่ายใดก็ตามซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจาก Booking.com อนุญาตให้มีการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินและบริการของผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินผ่านแพลตฟอร์ม โดยรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงค่าธรรมเนียมใด ๆ ที่ต้องชำระภายใต้เอกสารระหว่าง Booking.com และผู้ดำเนินการ และรวมภาษี (หากมี) ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินจะไม่เรียกเก็บเงินจากที่พักสำหรับบริการของผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน เว้นแต่ได้ระบุไว้ในเอกสารการดำเนินการด้านการชำระเงิน การชำระเงินจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของใบแจ้งหนี้ของ Booking.com และในที่นี้ Booking.com ได้รับมอบอำนาจอย่างไม่สามารถเพิกถอนได้จากที่พัก เพื่อมอบคำแนะนำให้ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินเกี่ยวกับการชำระยอดดังกล่าวแก่ Booking.com โดยเอามาจากการชำระเงินที่ดำเนินการแล้ว

2.10 ในที่นี้ ที่พักมอบอำนาจให้ Booking.com เป็นครั้งคราวตามความจำเป็น ในการแนะนำให้ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินจ่ายยอดจากการชำระเงินที่ดำเนินการแล้วแก่ Booking.com ตามที่จำเป็นสำหรับคอมมิชชั่นที่ครบกำหนดชำระและค้างชำระ และ/หรือยอดอื่นซึ่งที่พักต้องจ่ายให้กับ Booking.com ในกรณีที่มีเงินไม่เพียงพอที่จะชำระยอดทั้งหมดที่คงค้างแก่ Booking.com หรือหากไม่ได้มีคำสั่งใด ๆ Booking.com อาจเรียกเก็บยอดที่ขาดจากที่พักด้วยวิธีหักบัญชีอัตโนมัติ (หากมี) หรือหักจากค่ามัดจำ (หากมี) หรือกรณีที่ Booking.com ร้องขอตั้งแต่ครั้งแรก อาจสั่งให้ที่พักชำระยอดที่ขาดไปยังบัญชีธนาคารนั้นตามที่ Booking.com ระบุไว้เป็นครั้งคราว

2.11 ราคาห้องพักจะเรียกเก็บและดำเนินการโดยผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน โดยเป็นไปตามนโยบายการชำระเงินของที่พักสำหรับการจองที่เกี่ยวข้องตามที่เปิดเผยบนแพลตฟอร์ม และเป็นไปตามบทบัญญัติอื่น ๆ ของข้อตกลงฉบับนี้ (ตามขอบเขตที่บังคับใช้) ที่พักตกลงและยอมรับว่าลูกค้าอาจจ่ายราคาห้องพักในสกุลเงินอื่นซึ่งต่างจากสกุลเงินที่ระบุไว้ในข้อมูลที่พัก

2.12 หากที่พักระบุราคาห้องพักในสกุลเงินใด ก็จะได้รับยอดนั้นในสกุลเงินดังกล่าว หากที่พักพยายามยอมรับการชำระราคาห้องพักในบัญชีที่มีสกุลเงินต่างจากราคาห้องพัก หรือพยายามแปลงสกุลเงินเองสำหรับยอดที่ต้องชำระ ที่พักจะต้องรับความเสี่ยงทั้งหมดจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งรวมถึงการแปลงสกุลเงินสำหรับราคาห้องพัก ที่พักยอมรับและรับทราบว่า สืบเนื่องจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา และค่าใช้จ่าย/ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บโดยธนาคาร บริษัทบัตรเครดิต และตัวกลางอื่น ๆ สำหรับการเรียกเก็บ ดำเนินการ และชำระยอดเงินที่เกี่ยวข้อง อาจทำให้มีความแตกต่างระหว่างราคาห้องพัก (ซึ่งที่พักอัปโหลดในระบบ) กับจำนวนเงินที่เรียกเก็บ และกับจำนวนเงินซึ่งที่พักได้รับ ที่พักจะไม่เรียกเก็บเงินเพิ่มเติม ขอให้ชำระเงิน หรือเรียกเก็บเงินจำนวนใด ๆ จากลูกค้าในส่วนที่เกี่ยวข้องกับส่วนต่างดังกล่าว

2.13 ที่พักยอมรับและรับทราบว่าที่พักจะเป็นผู้รับผิดชอบตลอดเวลาในการเรียกเก็บ นำส่ง หัก ณ ที่จ่าย และชำระภาษีที่เกี่ยวข้องและค่าบริการพิเศษนอกเหนือจากราคาห้องพัก (ซึ่งรวมถึงภาษีและค่าบริการพิเศษที่เกี่ยวข้องซึ่งไม่รวมอยู่ในราคาห้องพัก) และคอมมิชชั่นให้กับหน่วยงานด้านภาษีที่เกี่ยวข้อง ที่พักจะไม่เรียกเก็บเพิ่มเติม ขอให้ชำระเงิน หรือเรียกเก็บยอดใดก็ตามที่ไม่ได้รวมอยู่ในราคาห้องพักอยู่ก่อนแล้วจากลูกค้า เว้นแต่มีการระบุไว้อย่างชัดเจนในข้อมูลที่พักว่าภาษี ส่วนเสริม (เช่น อาหารเช้า) หรือยอดอื่น ๆ ไม่ได้รวมอยู่ในราคาห้องพัก (“องค์ประกอบที่ไม่รวมอยู่ในราคา”)

2.14 Booking.com สามารถสั่งให้ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินยกเลิกหรือคืนการชำระเงินที่ดำเนินการแล้ว หรือชำระยอดเงินที่เกี่ยวข้องให้ลูกค้าในนามของที่พัก โดยใช้ทรัพยากรของ Booking.com เอง และสามารถสั่งให้ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินจ่ายคืน (ในนามของที่พัก) ยอดที่ชำระจากการชำระเงินที่ดำเนินการแล้วให้ลูกค้าในกรณีต่อไปนี้:

(i) ที่พักตกลงคืน (ส่วนหนึ่งของ) เงินเต็มจำนวนหรือบางส่วนของราคาห้องพักแบบไม่สามารถรับเงินคืนซึ่งมีการชำระไปแล้ว

(ii) Booking.com ต้องทำการคืนเงินทั้งหมดหรือบางส่วนของราคาห้องพัก เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายการยกเลิกใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือตามกฎหมาย คำสั่งศาล คำแนะนำหรือคำสั่งของรัฐบาล (เสมือน) คำตัดสินของอนุญาโตตุลาการ (หรือคำวินิจฉัยที่คล้ายกัน) หรือหมายศาล หรือ

(iii) Booking.com พิจารณาตามดุลยพินิจของตนว่าการคืนเงินทั้งหมดหรือบางส่วนของราคาห้องพักนั้นมีความสมเหตุสมผลหรือยุติธรรมต่อลูกค้า

2.15 ในกรณีที่มีเงินไม่เพียงพอที่จะชำระยอดทั้งหมดที่คงค้างแก่ Booking.com ตามข้อ 2.14 หรือหากไม่ได้มีคำสั่งใด ๆ Booking.com อาจเรียกเก็บยอดที่ขาดด้วยบริการหักบัญชีอัตโนมัติ (หากมี) หรือหักจากค่ามัดจำ (หากมี) หรือกรณีที่ Booking.com ร้องขอตั้งแต่ครั้งแรก อาจสั่งให้ที่พักชำระยอดที่ขาดไปยังบัญชีธนาคารตามที่ Booking.com ระบุไว้เป็นครั้งคราว

2.16 Booking.com อาจเรียกเก็บคอมมิชชั่นจากราคาห้องพัก ซึ่งมีการเรียกเก็บและโอนให้ที่พักแล้วในกรณีที่มีการไม่เข้าเช็คอินหรือยกเลิกการจอง ในกรณีที่มีการจองเกินจำนวนจัดสรร คอมมิชชั่นจะได้รับการคำนวณอย่างสอดคล้องกับข้อกำหนดของข้อตกลงฉบับนี้

2.17 เว้นแต่กฎหมายที่บังคับใช้จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ที่พักจะออกใบเสร็จ/ใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้าเป็นยอดเงินเต็มจำนวนของการจอง (ซึ่งรวมถึงหรือบวกภาษีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดตามที่กฎหมายที่บังคับใช้กำหนด) ที่พักจะไม่ออกใบแจ้งหนี้ หรือส่งใบแจ้งหนี้ให้ Booking.com สำหรับการจองหรือการเข้าพัก ไม่มีส่วนใดในข้อตกลงฉบับนี้ที่มุ่งหมายหรือบอกเป็นนัยว่า Booking.com ทำหน้าที่หรือปฏิบัติการในฐานะตัวการ ผู้จำหน่าย หรือผู้ขายห้องพัก (อีกครั้ง)

3. การชำระเงินผ่านบัตรเสมือนจริง

3.1 หากผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินมอบบัตรเสมือนจริงให้แก่ที่พัก (“บัตรเสมือนจริง”) เพื่อโอนการชำระเงินที่ดำเนินการแล้ว หลังจากนั้นที่พักจะเรียกเก็บการชำระเงินที่ดำเนินการแล้วโดยเรียกเก็บเงินจากบัตรเสมือนจริงในช่วงเวลาที่กำหนดซึ่งจะสิ้นสุดเมื่อผ่านวันเช็คเอาท์ของลูกค้าไปแล้ว 12 เดือน (“วันสุดท้ายที่ดำเนินการได้”) ก่อนถึงวันสุดท้ายที่ดำเนินการได้ Booking.com จะใช้ความพยายามตามสมควรในเชิงพาณิชย์เพื่อแจ้งที่พักเกี่ยวกับ (ส่วนใดก็ตามของ) จำนวนเงินที่มีอยู่ในบัตรเสมือนจริง (“ยอดคงเหลือของบัตรเสมือนจริง”) ซึ่งที่พักสามารถเรียกเก็บได้ การแจ้งให้ที่พักทราบเกี่ยวกับยอดคงเหลือของบัตรเสมือนจริงที่ที่พักสามารถเรียกเก็บได้นั้นจะส่งผลให้ Booking.com และ/หรือผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินได้รับการปลดเปลื้องจากภาระผูกพันใด ๆ ที่อาจมีภายใต้กฎหมายที่บังคับใช้ในการแจ้งให้ที่พักทราบ หากที่พักไม่สามารถเรียกเก็บยอดคงเหลือของบัตรเสมือนจริงภายในวันสุดท้ายที่ดำเนินการได้ จะเกิดสิ่งต่อไปนี้นับจากวันสุดท้ายที่ดำเนินการได้:

(i) บัตรเสมือนจริงจะถูกปิดใช้งาน

(ii) สิทธิและการเรียกร้องของที่พักต่อจำนวนเงินดังกล่าว (รวมถึงสิทธิในการหักกลบลบหนี้) จะสิ้นสุดลงโดยอัตโนมัติ และ

(iii) Booking.com มีสิทธิ กรรมสิทธิ์ และผลประโยชน์ในจำนวนเงินดังกล่าวอย่างเต็มที่

3.2 นับตั้งแต่วันสุดท้ายที่ดำเนินการได้ ในที่นี้ถือว่าที่พักไม่ผูกมัดและปลดเปลื้อง Booking.com และ/หรือบริษัทแอฟฟิลิเอตอย่างถาวรโดยไม่ต้องดำเนินการเพิ่มเติมใด ๆ จากข้อเรียกร้องอย่างใดอย่างหนึ่งและทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับยอดคงเหลือของบัตรเสมือนจริง (ซึ่งรวมอย่างชัดเจนถึงข้อเรียกร้องที่เกี่ยวข้องกับ (ส่วนใดก็ตามของ) ยอดคงเหลือของบัตรเสมือนจริงตราบเท่าที่ยังไม่ได้มีการเรียกเก็บโดยที่พักก่อนวันสุดท้ายที่ดำเนินการได้) คู่สัญญาตกลงอย่างชัดแจ้งว่ายอดคงเหลือของบัตรเสมือนจริง (หรือส่วนใดก็ตามในที่นี้) ซึ่ง Booking.com เก็บไว้หลังวันสุดท้ายที่ดำเนินการได้หมดเขตนั้น จะไม่ทำให้เกิดคอมมิชชั่นหรือค่าตอบแทนอื่นซึ่งที่พักต้องจ่ายให้กับ Booking.com สำหรับการให้บริการภายใต้ข้อตกลงนี้

ภาคผนวก 3C

ข้อกำหนดเรื่องการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินสำหรับธุรกรรมภายในสหรัฐอเมริกา ยกเว้นธุรกรรมที่ภาคผนวก 3B มีผลบังคับใช้

1. ขอบเขต คำนิยาม และการตีความ

1.1 ภาคผนวก 3C นี้จะไม่ใช้กับธุรกรรมการชำระเงินที่เกี่ยวกับการจองซึ่งทำตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2020 อีกต่อไป ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2020 เป็นต้นไป ธุรกรรมการชำระเงินภายในสหรัฐอเมริกาจะอยู่ภายใต้การกำกับของภาคผนวก 3A บทบัญญัติที่รวมอยู่ในภาคผนวก 3C นี้จะยังคงมีผลบังคับใช้กับการจองที่ทำก่อนวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2020 โดยไม่คำนึงถึงช่วงเวลาของธุรกรรมการชำระเงิน

1.2 ภาคผนวก 3C นี้เป็นส่วนสำคัญและต้องอ่านร่วมกันกับข้อตกลงฉบับนี้ ข้อกำหนดและเงื่อนไขของข้อตกลงฉบับนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงและมีผลบังคับใช้อย่างเต็มที่ เว้นแต่จะมีการระบุเป็นอื่นไว้ในภาคผนวก 3C นี้

1.3 คำเฉพาะที่เขียนด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษพิมพ์ใหญ่จะมีความหมายเช่นเดียวกับที่ระบุไว้ในข้อตกลงฉบับนี้ เว้นแต่จะมีการนิยามไว้เป็นอย่างอื่นในภาคผนวก 3C นี้ การอ้างอิงในภาคผนวก 3C นี้เกี่ยวกับข้อใดก็ตามจะหมายถึงข้อในภาคผนวก 3C นี้ เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น

2. การอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน

2.1 ที่พักยอมรับและรับทราบว่า Booking.com อาจเสนอบริการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน

2.2 Booking.com อาจอนุญาตเป็นครั้งคราวให้บุคคลที่สาม (“ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน”) ปฏิบัติการบนแพลตฟอร์ม โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้อำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินได้ ภาคผนวก 3C นี้จะใช้บังคับหากการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินนั้นเกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินซึ่งให้บริการ (“บริการของผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน”) แก่ และภายใต้การผูกพันทางสัญญาโดยตรงกับลูกค้าโดย (ก) การเรียกเก็บเงินจากลูกค้าผ่านวิธีชำระเงินที่ให้บริการโดยผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน (“การชำระเงินที่ดำเนินการแล้ว”) และ (ข) การจ่ายยอดเงินที่เรียกเก็บให้ที่พักโดยตรงแทนลูกค้า

2.3 การอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินภายใต้ภาคผนวก 3C นี้:

(i) ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินที่ทำหน้าที่ในนามของที่พักหรือ Booking.com ในส่วนที่เกี่ยวกับการเรียกเก็บการชำระเงินที่ดำเนินการแล้วเพื่อส่งต่อไปยังที่พัก และ

(ii) เกี่ยวข้องกับข้อผูกพันบางอย่างซึ่งผูกมัดผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน และค่าธรรมเนียมบางอย่างซึ่งมีการจ่ายให้ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน โดยที่ Booking.com เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงระหว่างผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินกับ Booking.com ตามที่ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินได้รับอนุญาตให้มอบบริการของผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินบนแพลตฟอร์ม เพื่อให้ลูกค้าสามารถชำระเงินแก่ที่พักได้

2.4 เพื่อให้การดำเนินงานของการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้ ที่พักจะต้องให้ข้อมูลทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับจุดประสงค์ด้านกฎหมาย (ซึ่งรวมถึงการป้องกันการฉ้อโกง การฟอกเงิน และการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย) แก่ Booking.com เพื่อที่จะได้ส่งต่อไปยังผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน

2.5 Booking.com จะไม่รับผิดใด ๆ ต่อการตัดสินใจของผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินที่จะยุติหรือไม่ให้บริการของผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินในส่วนที่เกี่ยวกับการจ่ายเงินไปยังที่พัก หรือการที่ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินละเมิดหรือดำเนินการตามล่าช้าในส่วนที่เกี่ยวกับบทบัญญัติของการให้บริการของผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน Booking.com จะไม่มีภาระผูกพันในการอนุญาตให้ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินปฏิบัติการบนแพลตฟอร์ม หรืออีกอย่างหนึ่งคือไม่มีหน้าที่ทำให้แน่ใจว่าบริการของผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินนั้นพร้อมให้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม

2.6 Booking.com หรือผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินอาจแจ้งยุติหรือระงับตัวเลือกที่มีให้หรือการปฏิบัติการของการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินทั้งหมดหรือบางส่วน ในกรณีที่มีการกล่าวหาหรือต้องสงสัยว่ามีการฉ้อโกงบัตรเครดิต การฝ่าฝืนมาตรการลงโทษ หรือการละเมิดสัญญาที่เกี่ยวข้องกับที่พัก Booking.com และผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินอาจแบ่งปันข้อมูล (ขึ้นอยู่กับความเป็นส่วนตัวและภาระผูกพันทางกฎหมายของคู่สัญญาแต่ละฝ่าย) ที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงหรือการใช้บริการของผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินในทางที่ผิด ทั้งที่เกิดขึ้นจริงหรือต้องสงสัยใด ๆ

2.7 Booking.com อาจเรียกเก็บเงิน (ให้ฝ่ายอื่น) หรือขอให้ที่พักชดเชยสำหรับค่าธรรมเนียม ต้นทุน หรือค่าใช้จ่ายใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินและ/หรือบริการของผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน รวมถึงภาษี (หากมี) โดยการชำระเงินจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของใบแจ้งหนี้

2.8 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับแต่ละการจอง ราคาห้องพักจะเป็นยอดเงินที่เรียกเก็บจากลูกค้าและดำเนินการโดยผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน เพื่อชำระเงินให้แก่ที่พัก (และตราบเท่าที่เหมาะสม จะเป็นไปตามนโยบายการชำระเงินของที่พักสำหรับการจองที่เกี่ยวข้องตามที่เปิดเผยบนแพลตฟอร์ม และเป็นไปตามบทบัญญัติอื่น ๆ ของข้อตกลงฉบับนี้) ในที่นี้ที่พักมอบอำนาจให้ Booking.com มอบข้อมูลแก่ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน (ดำเนินการในนามของลูกค้า) เป็นยอดเงินใด ๆ ที่ต้องจ่ายให้กับที่พัก โดยหากยอดเงินดังกล่าวต้องจ่ายให้ที่พักและเกี่ยวข้องกับการคืนเงิน การเปลี่ยนกลับ การคืน ข้อพิพาท การปรับยอดเงิน การปฏิเสธการชำระเงิน หรือเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินใดก็ตาม

2.9 การชำระเงินที่ดำเนินการแล้วจะถูกโอนโดยผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินไปยังที่พักผ่านการโอนเงินผ่านธนาคาร หรือโดยที่พักจะได้ข้อมูลบัตรเครดิตเสมือนจริง ซึ่งสามารถนำไปใช้หักยอดการชำระที่เกี่ยวข้องได้ (“บัตรเสมือนจริง”)

3. กฎทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการโอนเงิน

3.1 ที่พักยอมรับและรับทราบว่า สืบเนื่องจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา และค่าใช้จ่าย/ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บโดยธนาคาร บริษัทบัตรเครดิต และตัวกลางอื่น ๆ สำหรับการเรียกเก็บ ดำเนินการ และชำระยอดเงินที่เกี่ยวข้อง อาจทำให้มีความแตกต่างระหว่างราคาห้องพัก (ซึ่งที่พักอัปโหลดในแพลตฟอร์ม) กับการชำระเงินที่ดำเนินการแล้ว และกับจำนวนเงินซึ่งที่พักได้รับ

3.2 ที่พักจะเป็นผู้รับผิดชอบตลอดเวลาในการเรียกเก็บ นำส่ง หัก ณ ที่จ่าย และชำระภาษีที่เกี่ยวข้องและค่าบริการพิเศษนอกเหนือจากราคาห้องพัก (ซึ่งรวมถึงภาษีและค่าบริการพิเศษที่เกี่ยวข้องซึ่งไม่รวมอยู่ในราคาห้องพัก) ให้กับหน่วยงาน (ภาษี) ที่เกี่ยวข้อง (ตามที่เหมาะสม) ตลอดจนนำส่ง หัก ณ ที่จ่าย และชำระภาษี (ที่มี) ของคอมมิชชั่นให้กับหน่วยงานด้านภาษีที่เกี่ยวข้อง ที่พักจะไม่เรียกเก็บหรือขอให้มีการชำระเงินเพิ่มเติมใด ๆ จากลูกค้าสำหรับยอดที่ไม่ได้รวมอยู่ในราคาห้องพักอยู่ก่อนแล้ว (ยกเว้นว่าเป็นองค์ประกอบที่ไม่ได้ถูกรวมในราคา) (หากมี)) เว้นแต่ว่าที่พักจะระบุไว้อย่างชัดเจนในตัวเลือกที่เปิดให้จองบนแพลตฟอร์ม ว่าภาษี ส่วนเสริม (เช่น อาหารเช้า) หรือยอดอื่นใดบางอย่างนั้นไม่ได้รวมอยู่ในราคาห้องพัก (“องค์ประกอบที่ไม่รวมอยู่ในราคา”)

3.3 ที่พักจะคืนเงินให้ Booking.com ตามคำขอในกรณีต่อไปนี้:

(i) ที่พักตกลงคืนเงิน (ส่วนหนึ่งส่วนใด) ของราคาห้องพักแบบไม่สามารถรับเงินคืนเงินได้ซึ่งมีการชำระไปแล้วเต็มจำนวนหรือบางส่วน หรือ

(ii) Booking.com ต้องทำตามนโยบายการยกเลิกใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือตามกฎหมาย คำสั่งศาล คำแนะนำหรือคำสั่งของรัฐบาล (เสมือน) คำตัดสินของอนุญาโตตุลาการ (หรือการพิจารณาคดีที่คล้ายกัน) หรือหมายศาล หรือ

(iii) Booking.com พิจารณาตามดุลยพินิจของตนว่าการคืนเงินทั้งหมดหรือบางส่วนของราคาห้องพักนั้นมีความสมเหตุสมผลหรือยุติธรรมต่อลูกค้าที่เกี่ยวข้อง

3.4 ในกรณีที่มีการไม่เข้าเช็คอินหรือยกเลิกการจอง Booking.com อาจเรียกเก็บคอมมิชชั่นเป็นยอดที่เกี่ยวข้องจากราคาห้องพัก ซึ่งมีการเรียกเก็บและโอนให้ที่พักแล้ว ในกรณีที่มีการจองเกินจำนวนจัดสรร คอมมิชชั่นจะได้รับการคำนวณอย่างสอดคล้องกับข้อกำหนดของข้อตกลงฉบับนี้

3.5 เว้นแต่กฎหมายที่ใช้บังคับจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ที่พักจะออกใบเสร็จ/ใบแจ้งหนี้ให้กับลูกค้า (และมอบใบเสร็จ/ใบแจ้งหนี้ให้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ลูกค้าขอ) ก็ต่อเมื่อเป็นยอดเงินเต็มจำนวนของการจองเท่านั้น (โดยรวมหรือบวกภาษีทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง) (ตามที่กฎหมายที่บังคับใช้กำหนด)) ที่พักจะไม่ออกใบแจ้งหนี้ (หรือส่งใบแจ้งหนี้) ให้ Booking.com สำหรับการจองหรือการเข้าพัก ไม่มีส่วนใดในข้อตกลงฉบับนี้ที่ระบุหรือบอกเป็นนัยว่า Booking.com ทำหน้าที่หรือปฏิบัติการในฐานะตัวการ ผู้จำหน่าย หรือผู้ขาย (ต่อ) ห้องพัก

3.6 Booking.com อาจใช้ดุลยพินิจโดยเด็ดขาดเป็นครั้งคราว:

(i) ในการชำระเงินด้วยทรัพยากรของตนเอง สำหรับยอดเงินใดก็ตามที่ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินต้องจ่ายให้กับที่พัก (“การชำระล่าช้าของผู้ดำเนินการ”) แต่อาจล่าช้าเนื่องด้วยเหตุผลใดก็ตาม หากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้น จนทำให้ Booking.com ต้องชำระเงิน ในที่นี้ที่พักจะมอบหมายสิทธิทั้งหมดหรือสิทธิใดก็ตามซึ่งที่พักมีให้ Booking.com เพื่อรับยอดที่เกี่ยวข้องกับการชำระล่าช้าของผู้ดำเนินการ และกำกับให้ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินทำการจ่ายการชำระล่าช้าดังกล่าวโดยตรงแก่ Booking.com แทนที่จะจ่ายให้ที่พัก และ

(ii) ในการชำระเงินให้แก่ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินเป็นยอดใดก็ตามซึ่งที่พักต้องจ่ายให้ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินหรือลูกค้า (ตัวอย่างเช่น ที่เกี่ยวข้องกับยอดเงินคืนซึ่งตกลงไว้ว่าที่พักจะคืนให้ลูกค้า) โดยในขอบเขตและโดยการอ้างอิงถึงยอดเงินซึ่ง Booking.com จ่ายให้นี้ ที่พักจะจ่ายให้กับ Booking.com โดยการคืนยอดเงินซึ่งที่จริงแล้วที่พักจะต้องจ่ายให้ผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน

4. การชำระเงินผ่านการโอนเงินผ่านธนาคาร

4.1 ที่พักตกลงที่จะแจ้งข้อมูลบัญชีธนาคารที่ถูกต้องแก่ Booking.com เพื่อจะได้มีการส่งต่อไปยังผู้ดำเนินการด้านการชำระเงิน สำหรับการจ่ายการชำระเงินที่ดำเนินการแล้วใดก็ตามซึ่งโอนผ่านทางธนาคาร ที่พักจะรับผิดชอบต่อความสูญเสียทั้งหมดซึ่งเกิดจากข้อมูลที่ไม่ถูกต้องที่ให้ไว้กับ Booking.com Booking.com จะดำเนินการในนามของที่พัก เพื่อแจ้งผู้ดำเนินการด้านการชำระเงินภายใน 14 วันหลังสิ้นสุดเดือนที่ลูกค้าเช็คเอาท์ โดยแจ้งให้โอนยอดของการชำระเงินที่ดำเนินการแล้วไปยังที่พักโดยใช้ข้อมูลบัญชีธนาคารที่ระบุไว้

5. การชำระเงินผ่านบัตรเสมือนจริง

5.1 ที่พักตกลงที่จะไม่อนุญาตหรือเรียกชำระจากบัตรเสมือนจริงจนกว่าจะถึงวันที่การจองขงลูกค้ากลายเป็นแบบไม่สามารถรับเงินคืนได้ บัตรเสมือนจริงใช้ได้กับการจองที่กำหนดให้บัตรดังกล่าวเท่านั้น และมียอดเงินและสกุลเงินตามที่ระบุในข้อมูลยืนยันของการจองนั้น ที่พักต้องเรียกเก็บการชำระเงินที่ดำเนินการแล้ว โดยเรียกชำระบัตรเสมือนจริงภายในช่วงเวลาที่กำหนดซึ่งจะสิ้นสุดลงเมื่อผ่านวันเช็คเอาท์ของลูกค้าไปแล้ว 12 เดือน

5.2 ในกรณีที่ที่พักได้รับการชำระเงินผ่านการอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินโดยใช้บัตรเสมือนจริง จะถือว่าที่พักได้รับการชำระเงินแล้วจากลูกค้าเป็นยอดเต็มจำนวนและเป็นการชำระสุดท้ายตั้งแต่ที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการกับบัตรเสมือนจริงได้ ไม่ใช่ในเวลาต่อมาเมื่อที่พักได้รับยอดของการชำระเงินผ่านธนาคารที่เป็นผู้ดำเนินการ โดยสถานะด้านการรับชำระเงินของที่พักจะเป็นเช่นนี้ตลอดไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ภาคผนวก 4

การจัดอันดับ

1. Booking.com มีเป้าหมายในการแสดงผลการค้นหาซึ่งสอดคล้องกับลูกค้าแต่ละราย โดยการแสดงการจัดอันดับที่พักตั้งต้นที่ปรับให้เหมาะกับลูกค้ารายนั้น ๆ บนแพลตฟอร์ม ลูกค้าสามารถเลื่อนดูการจัดอันดับตั้งต้นนี้ได้ ตลอดจนใช้เกณฑ์ค้นหาและจัดเรียงอันดับแบบอื่น ๆ เรียกได้ว่าสามารถปรับผลการค้นหาให้ได้การจัดอันดับอิงตามหลักเกณฑ์อื่น Booking.com ใช้อัลกอริทึมที่หลากหลายในการสร้างผลการจัดอันดับตั้งต้น ซึ่งเป็นกระบวนการที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

2. Booking.com ได้ระบุว่าตัวแปรต่อไปนี้มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดที่สุดกับลูกค้าที่ค้นหาที่พักที่เหมาะสม ดังนั้นจึงให้ความสำคัญอันดับต้น ๆ กับตัวแปรดังกล่าวในอัลกอริทึม:

a. ประวัติการค้นหาส่วนบุคคลของลูกค้า

b. อัตราการคลิกจากหน้าค้นหาเข้าไปยังหน้าที่พัก

c. จำนวนการจองที่เกี่ยวข้องกับจำนวนการเข้าชมหน้าที่พักบนแพลตฟอร์ม (“อัตราผู้เข้าชมที่ตัดสินใจจอง”)

d. การจองรวม (รวมถึงการยกเลิก) และสุทธิ (ไม่รวมการยกเลิก) ของที่พัก

3. อาจมีปัจจัย (เดี่ยว) หลายอย่างที่ส่งผลต่ออัตราผู้เข้าชมที่ตัดสินใจจองและอัตราที่ลูกค้าเห็นและคลิก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวรวมถึงคะแนนรีวิว (ทั้งคะแนนรวมและคะแนนด้านต่าง ๆ) จำนวนห้องว่างที่เปิดให้จอง นโยบาย ราคา (ที่แข่งขันได้) คุณภาพของเนื้อหา และคุณลักษณะบางประการของที่พัก เปอร์เซ็นต์คอมมิชชั่นที่จ่ายโดยที่พัก หรือสิทธิประโยชน์อื่นที่มีต่อ Booking.com (เช่น ผ่านการทำข้อตกลงทางการค้ากับที่พักหรือพันธมิตรธุรกิจ) อาจส่งผลต่ออันดับตั้งต้นได้เช่นกัน ตลอดจนการที่ที่พักมีประวัติการชำระเงินทันเวลา ที่พักสามารถหาคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีพัฒนาอัตราผู้เข้าชมที่ตัดสินใจจองและอัตราที่ลูกค้าเห็นและคลิกได้บนเอกซ์ทราเน็ต

4. ที่พักสามารถกระตุ้นอันดับของตนได้เช่นกันด้วยการเข้าร่วมโปรแกรมที่ Booking.com มีให้ เช่น โปรแกรมสมนาคุณ Genius ข้อเสนอ โปรแกรมที่พักแนะนำและโปรแกรมที่พักแนะนำพลัส และ Visibility Booster (โดย 3 อย่างหลังนั้นที่พักจะต้องจ่ายคอมมิชชั่นให้ Booking.com มากขึ้น) ช่วงของโปรแกรมที่มีอาจเปลี่ยนแปลงเป็นครั้งคราว โปรแกรมและข้อกำหนดที่ใช้กับแต่ละโปรแกรมจะได้รับการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอและมีอยู่บนเอกซ์ทราเน็ต

ภาคผนวก 5

ข้อความของประเทศที่มีข้อจำกัดต่ำด้านความเท่าเทียมในการขาย

แม้จะมีข้อขัดแย้งใดก็ตามในข้อตกลงฉบับนี้ ไปจนถึงที่พัก (หมายถึง ตัวที่พัก) ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศที่มีข้อจำกัดต่ำด้านความเท่าเทียมในการขาย จะถือว่าข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ระบุไว้ด้านล่างนี้จะนำมาใช้แทนที่ข้อกำหนดในข้อตกลงฉบับนี้ที่มีเลขที่เกี่ยวข้อง: ข้อ 2.2.1 ต่อไปนี้จะแทนที่ข้อ 2.2.1 และ 2.2.2 ในข้อตกลงฉบับนี้:

2.2.1 ที่พักจะต้องให้ราคาและจำนวนห้องว่างที่เปิดให้จองอย่างเท่าเทียมแก่ Booking.com ตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้:

(i) “ความเท่าเทียมด้านราคา” หมายถึง ราคาเดียวกันหรือดีกว่าสำหรับที่พักเดียวกัน ประเภทห้องพักเดียวกัน วันที่เดียวกัน ประเภทเตียงเดียวกัน จำนวนผู้เข้าพักเท่ากัน สิ่งอำนวยความสะดวกและส่วนเสริมที่เหมือนกันหรือดีกว่า (เช่น อาหารเช้าฟรี WiFi เช็คเอาท์ก่อนเวลา/ล่วงเวลา) ข้อกำหนดด้านการจองและนโยบายเดียวกันหรือดีกว่า เช่น การเปลี่ยนแปลงการจองและนโยบายการยกเลิกการจอง ตามที่ที่พักมีให้บนเว็บไซต์ แอป หรือคอลล์เซ็นเตอร์ของที่พัก (รวมถึงระบบการจองของลูกค้า) หรือมีให้โดยตรง ณ ที่พัก อีกทั้งกับคู่แข่งของ Booking.com (ซึ่งรวมถึงการจองแบบออนไลน์หรือออฟไลน์ หรือตัวแทนหรือคนกลางด้านการจอง) และ/หรือที่ให้กับบุคคลที่สามอื่นใด (ออนไลน์หรือออฟไลน์) ซึ่งเป็นคู่ค้าธุรกิจของหรือเกี่ยวข้องกับหรือเชื่อมโยงกับที่พักในลักษณะอื่นใดก็ตาม ความเท่าเทียมด้านราคาจะไม่มีผลในกรณีที่ราคามีไว้สำหรับกลุ่มผู้ใช้แบบปิด (“กลุ่มผู้ใช้แบบปิด” หมายถึง กลุ่มที่ระบุการจำกัดไว้ชัดเจนซึ่งการเป็นสมาชิกในกลุ่มไม่ได้เป็นโดยอัตโนมัติ และ (ก) ผู้บริโภคเลือกที่จะเป็นสมาชิกด้วยตนเอง (ข) อินเทอร์เฟซออนไลน์หรือบนอุปกรณ์พกพาใด ๆ ซึ่งใช้โดยสมาชิกกลุ่มผู้ใช้แบบปิดนั้นเป็นแบบปกป้องด้วยรหัสผ่าน (ค) สมาชิกของกลุ่มผู้ใช้แบบปิดได้กรอกโปรไฟล์ลูกค้าครบถ้วนแล้ว และ (ง) ผู้บริโภคที่ได้รับการเสนอหรือมีราคาให้เลือกจองนั้น ได้ทำการจองก่อนหน้าอย่างน้อย 1 ครั้งในฐานะสมาชิกของกลุ่มผู้ใช้แบบปิด) หากการให้ราคาดังกล่าวนั้นไม่ได้ (ถูกทำให้) มีอยู่แบบสาธารณะ (โดยทางตรงหรือทางอ้อม) ในกรณีที่ราคาของกลุ่มผู้ใช้แบบปิด (ถูกทำให้) มีอยู่แบบสาธารณะ (โดยทางตรงหรือทางอ้อม) (โดยที่พัก คู่แข่ง (ทางตรง/ทางอ้อม) ของ Booking.com หรือบน (แพลตฟอร์ม) บุคคลที่สามใดก็ตาม) (ซึ่งรวมถึงเครื่องมือค้นหา (แบบเมตา) หรือเว็บไซต์เปรียบเทียบราคาใดก็ตาม) จะเท่ากับว่า Booking.com มีสิทธิในการได้ความเท่าเทียมด้านราคาสำหรับราคาดังกล่าว และ

(ii) “ความเท่าเทียมด้านจำนวนห้องว่างที่เปิดให้จอง” หมายถึง ที่พักจะต้องให้จำนวนห้องว่างที่เปิดให้จอง (กล่าวคือ ห้องพักที่เปิดให้จองบนแพลตฟอร์ม) แก่ Booking.com ซึ่งอย่างน้อยจะต้องเป็นที่น่าพึงพอใจเช่นเดียวกับที่ให้แก่คู่แข่งของ Booking.com (ซึ่งรวมถึงการจองแบบออนไลน์หรือออฟไลน์ หรือตัวแทน หรือคนกลางด้านการจอง) และ/หรือที่ให้กับบุคคลที่สามอื่นใด (ออนไลน์หรือออฟไลน์) ซึ่งเป็นคู่ค้าธุรกิจของหรือเกี่ยวข้องกับหรือเชื่อมโยงกับที่พักในลักษณะอื่นใดก็ตาม

5.1 (v) ราคาสำหรับห้องพักที่โฆษณาบนแพลตฟอร์มนั้นสอดคล้องกับหรือราคาที่ดีที่สุดที่มีสำหรับการเข้าพักในแบบเดียวกัน ณ ที่พัก และลูกค้าไม่สามารถได้ราคาที่ดีกว่าหากทำการจองกับที่พักโดยตรง หรือผ่าน (บุคคลที่สาม) ฝ่ายอื่น หรือผ่านตัวกลางหรือช่องทางอื่น และ

6.2.1 (iii) ข้อเรียกร้องทั้งหมดจากลูกค้าเกี่ยวกับหรือเป็นไปตามนโยบายเราเทียบราคาให้เท่าเทียม ในขอบเขตที่ข้อเรียกร้องใด ๆ ภายใต้หรือตามนโยบายเราเทียบราคาให้เท่าเทียมไม่ได้รับการชำระสะสางระหว่างลูกค้าและที่พักเมื่อลูกค้าเช็คเอาท์ (โดยให้ชำระเงินในราคาที่ต่ำกว่า)